รถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ไถลออกนอกรางกว่า 300 เมตร ไม่มีบาดเจ็บ-เสียชีวิต ตรวจสอบพบเครื่องยึดเหนี่ยวรางรถไฟชำรุดเร่งสอบหาสาเหตุ
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ทองลือ สวป.สน.บางขุนเทียน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้รับแจ้งทางวิทยุว่ามีรถไฟตกราง ระหว่างสถานีวัดสิงห์ กับที่หยุดรถบางบอน แขวงบางบอน เขตบางบอน จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม อพปร.บางบอน ช่างโรงรถดีเซลรางสมุทรสาคร และนักเรียนวิศวะช่างกลรถไฟ กว่า 50 คน พบรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ขบวน 1211 มีจำนวน 4 โบกี้ พบว่าโบกี้ที่ 3 ล้อตกจากรางไถลออกนอกเส้นทางเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร โดยมีผู้โดยสารกว่า 500 คน อยู่ในสภาพตกใจพากันยื่นหน้ามุงดู โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งออกจากสถานีมหาชัย มุ่งหน้าไปวงเวียนใหญ่ โดยออกจากสถานีมหาชัยตั้งแต่เวลา 04.30 น. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุยังไม่สว่างมากนัก ขณะที่โบกี้ที่ 1 และ 2 ผ่านไปได้ด้วยดี แต่โบกี้ที่ 3 มีอาการตะกุตะกัก ก่อนที่จะแล่นผ่านมาได้เล็กน้อย ล้อก็ไถลออกนอกราง ซึ่งทางพนักงานขับรถไฟได้พยายยามหยุดรถไฟ แต่ก็ไม่สามารถทำการบังคับรถให้หยุดได้ ทำให้รถไฟไถลไปกว่า 300 เมตร ก่อนจะสงบแน่นิ่งอยู่บริเวณกลางทางบริเวณท้ายซอยเพชรเกษม 83 โดยปลอดภัย
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัสดุ ณ ที่ทำการสารวัตรงานรถดีเซลรางสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุที่รถไฟไถลออกนอกเส้นทาง เพราะว่าเครื่องยึดเหนี่ยวรางรถไฟ ลักษณะคล้ายน็อตเป็นเหล็ก ที่ทำการยึดหมอนคอนกรีตกับรางรถไฟมีสนิมขึ้นจำนวนมาก ได้หักออกจากหมอนรถไฟคอนกรีต โดยพบว่าเกิดการชำรุดเป็นระยะทาง 303 เมตร
ทั้งนี้ รางรถไฟสายดังกล่าวเป็นเส้นทางเฉพาะขบวนสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุมีป้ายบังคับให้รถไฟสามารถทำความเร็วได้เพียง 20 กม.ต่อชม. โดยแต่ละวันจะมีรถไฟวิ่งไป-กลับเส้นทางดังกล่าวทั้งสิ้น 34 ขบวน โดยขบวนแรกจะออกจากสถานีมหาชัย เวลา 04.30 น. และขบวนสุดท้ายจะเข้าสู่สถานีมหาชัยในเวลา 21.00 น. ซึ่งในช่วงเวลาระหว่าง 21.00 น.เป็นต้นไป จะมีกองบำรุงมาคอยตรวจสอบสถาพเส้นทาง ถ้าหากพบว่าจุดใดชำรุดก็จะทำการซ่อมโดยการเกลี่ยก้อนหินในเข้าเสมอกับหมอนรถไฟ ทั้งที่เป็นช่วงหมอนคอนกรีตและหนอมไม้
เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวต่อว่า เดิมสภาพรางรถไฟบริเวณดังกล่าวจะเป็นแกนเหล็ก และมีการเอาหมอนรถไฟมาใส่ ซึ่งมีการนำหินมาอัดให้แน่น โดยช่วงหลังมีการนำหมอนคอนกรีตมาใช้ และได้นำเครื่องยึดเหนี่ยวรางมาทำการยึดติดหมอนคอนกรีตกับรางรถไฟ แต่ทราบว่าตัวเครื่องยึดเหนี่ยวรางที่มีลักษณะคล้ายน็อต เป็นการนำของเดิมที่มีการใช้แล้วจากที่อื่นมาใช้ต่อ
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวจำเป็นต้องหยุดขบวนเดินรถเป็นการชั่วคราว คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เนื่องจากต้องช่วยกันทำการยกล้อรถไฟใส่รางให้เหมือนเดิม ส่วนผู้โดยสารที่ติดอยู่ในขบวนดังกล่าวก็ได้เยียวยา โดยการนำขบวนรถไฟมารับต่อที่สถานีวัดสิงห์ ซึ่งผู้โดยสารจำเป็นต้องเดินเท้าไปขึ้นรถไฟประมาณ 300 เมตร ซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นที่น่าสงสัยว่าเครื่องยึดเหนี่ยวรางรถไฟกับหมอนคอนกรีตนั้น เพราะเหตุใดถึงได้ชำรุดพร้อมกันเป็นระยะทางยาวร่วม 300 เมตร ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจากทางการรถไฟฯอีกครั้งหนึ่ง ส่วนค่าเสียหายนั้นอยู่ระหว่างการประเมินและตรวจสอบ
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ทองลือ สวป.สน.บางขุนเทียน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้รับแจ้งทางวิทยุว่ามีรถไฟตกราง ระหว่างสถานีวัดสิงห์ กับที่หยุดรถบางบอน แขวงบางบอน เขตบางบอน จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม อพปร.บางบอน ช่างโรงรถดีเซลรางสมุทรสาคร และนักเรียนวิศวะช่างกลรถไฟ กว่า 50 คน พบรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ขบวน 1211 มีจำนวน 4 โบกี้ พบว่าโบกี้ที่ 3 ล้อตกจากรางไถลออกนอกเส้นทางเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร โดยมีผู้โดยสารกว่า 500 คน อยู่ในสภาพตกใจพากันยื่นหน้ามุงดู โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งออกจากสถานีมหาชัย มุ่งหน้าไปวงเวียนใหญ่ โดยออกจากสถานีมหาชัยตั้งแต่เวลา 04.30 น. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุยังไม่สว่างมากนัก ขณะที่โบกี้ที่ 1 และ 2 ผ่านไปได้ด้วยดี แต่โบกี้ที่ 3 มีอาการตะกุตะกัก ก่อนที่จะแล่นผ่านมาได้เล็กน้อย ล้อก็ไถลออกนอกราง ซึ่งทางพนักงานขับรถไฟได้พยายยามหยุดรถไฟ แต่ก็ไม่สามารถทำการบังคับรถให้หยุดได้ ทำให้รถไฟไถลไปกว่า 300 เมตร ก่อนจะสงบแน่นิ่งอยู่บริเวณกลางทางบริเวณท้ายซอยเพชรเกษม 83 โดยปลอดภัย
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัสดุ ณ ที่ทำการสารวัตรงานรถดีเซลรางสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุที่รถไฟไถลออกนอกเส้นทาง เพราะว่าเครื่องยึดเหนี่ยวรางรถไฟ ลักษณะคล้ายน็อตเป็นเหล็ก ที่ทำการยึดหมอนคอนกรีตกับรางรถไฟมีสนิมขึ้นจำนวนมาก ได้หักออกจากหมอนรถไฟคอนกรีต โดยพบว่าเกิดการชำรุดเป็นระยะทาง 303 เมตร
ทั้งนี้ รางรถไฟสายดังกล่าวเป็นเส้นทางเฉพาะขบวนสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุมีป้ายบังคับให้รถไฟสามารถทำความเร็วได้เพียง 20 กม.ต่อชม. โดยแต่ละวันจะมีรถไฟวิ่งไป-กลับเส้นทางดังกล่าวทั้งสิ้น 34 ขบวน โดยขบวนแรกจะออกจากสถานีมหาชัย เวลา 04.30 น. และขบวนสุดท้ายจะเข้าสู่สถานีมหาชัยในเวลา 21.00 น. ซึ่งในช่วงเวลาระหว่าง 21.00 น.เป็นต้นไป จะมีกองบำรุงมาคอยตรวจสอบสถาพเส้นทาง ถ้าหากพบว่าจุดใดชำรุดก็จะทำการซ่อมโดยการเกลี่ยก้อนหินในเข้าเสมอกับหมอนรถไฟ ทั้งที่เป็นช่วงหมอนคอนกรีตและหนอมไม้
เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวต่อว่า เดิมสภาพรางรถไฟบริเวณดังกล่าวจะเป็นแกนเหล็ก และมีการเอาหมอนรถไฟมาใส่ ซึ่งมีการนำหินมาอัดให้แน่น โดยช่วงหลังมีการนำหมอนคอนกรีตมาใช้ และได้นำเครื่องยึดเหนี่ยวรางมาทำการยึดติดหมอนคอนกรีตกับรางรถไฟ แต่ทราบว่าตัวเครื่องยึดเหนี่ยวรางที่มีลักษณะคล้ายน็อต เป็นการนำของเดิมที่มีการใช้แล้วจากที่อื่นมาใช้ต่อ
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวจำเป็นต้องหยุดขบวนเดินรถเป็นการชั่วคราว คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เนื่องจากต้องช่วยกันทำการยกล้อรถไฟใส่รางให้เหมือนเดิม ส่วนผู้โดยสารที่ติดอยู่ในขบวนดังกล่าวก็ได้เยียวยา โดยการนำขบวนรถไฟมารับต่อที่สถานีวัดสิงห์ ซึ่งผู้โดยสารจำเป็นต้องเดินเท้าไปขึ้นรถไฟประมาณ 300 เมตร ซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นที่น่าสงสัยว่าเครื่องยึดเหนี่ยวรางรถไฟกับหมอนคอนกรีตนั้น เพราะเหตุใดถึงได้ชำรุดพร้อมกันเป็นระยะทางยาวร่วม 300 เมตร ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจากทางการรถไฟฯอีกครั้งหนึ่ง ส่วนค่าเสียหายนั้นอยู่ระหว่างการประเมินและตรวจสอบ
