ผบช.ก.เผย ได้จัดสถานที่กองปราบปรามเตรียมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา เตรียมตั้งพนักงานสอบชุดใหม่ เค้นสอบปากคำ “ราเกซ สักเสนา” ชี้ตำรวจควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมง แล้วให้อัยการนำตัวส่งฟ้อง ขณะนี้รอเพียงคำสั่งศาลฎีกาแคนาดาชี้ขาดส่งตัวกลับไทยเท่านั้น ย้ำ ขั้นตอนของตำรวจเน้นรอบคอบรวดเร็ว
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ไทยเดินทางไปรับตัว นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ที่ประเทศแคนาดา ว่า ขณะนี้ยังรอฟังคำสั่งจากศาลฎีกา ประเทศแคนาดา ว่า จะมีความเห็นอย่างไร แต่ในส่วนของ บช.ก.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอดตั้งแต่สมัยที่ใช้ชื่อ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ หรือ สศก.ก็จะดำเนินการต่อไป
“ขณะนี้พนักงานสอบสวนบางรายได้เติบโตในหน้าที่การงานไปกันแล้ว บางรายก็เกษียณอายุราชการไปแล้ว จึงเตรียมแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ขึ้น และมอบหมายให้ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ มี พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ.และพนักงานสอบสวนของ บก.ปอศ.อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมให้นำสำนวนเดิมมาเตรียมไว้ด้วย” พล.ต.ท.ไถง กล่าว
ผบช.ก.กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของคดีนี้เกิดขึ้นประมาณ ปี 2539 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องให้พนักงานอัยการ ขณะที่ นายราเกซ ได้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อนหน้าที่พนักงานสอบสวนจะออกหมายจับ ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถนำตัวมาได้ จึงประสานไปยังอัยการให้ดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และเมื่อนำตัวมาได้แล้วพนักงานสอบสวนจะต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย คือ แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมสอบปากคำ ซึ่งได้เตรียมสถานที่ไว้ที่กองปราบปราม โดยตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมง จากนั้นจะส่งตัวให้พนักงานอัยการเพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระบวนการในชั้นตำรวจนั้นจะดำเนินการโดยเร็วอย่างรอบคอบและรวดเร็ว