หนุ่มเกาหลีเมายาคลั่งโดดตึก 6 ชั้น โชคดีหล่นลงเบาะลมไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่หมดฤทธิ์ ถือมีดวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ แถมใช้มีดกรีดข้อมืออยู่ตลอด ตร.ตัดสินใจเข้าชาร์จจับตัวก่อนนำตัวส่ง รพ.รักษาบาดแผล
วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น.ขณะที่ ด.ต.อาสา ทองสร้อย สายตรวจ สน.ห้วยขวาง กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจตราพื้นที่อยู่ได้รับแจ้งว่ามีชายชาวต่างชาติคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดจี้ตัวเอง และพยายามจะกระโดดจากที่สูงภายในอาคารซิตี้โฮม ถนนรัชดาซอย 10 แขวงและเขตห้วยขวาง จึงรุกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม ร.ต.ท.วิชัย ยี่รงค์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 8 ชั้น บริเวณชั้น 6 ห้องเลขที่ 105 เจ้าหน้าที่พบชายชาวเกาหลี อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีส้ม ลักษณะคล้ายคนเมาสารเสพติด ใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต จี้ที่ข้อมือตนเองและพยายามจะกระโดดจากระเบียงหลังห้อง เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยนำเบาะลมและรถกระเช้ามาเตรียมทันที ก่อนจะขึ้นไปการเจรจาเกลี้ยกล่อม
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ชายคนดังกล่าวได้กระโดดลงมาพร้อมอาวุธมีดลงเบาะลมทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่าง แต่เจ้าตัวยังไม่หยุดคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดเล่มเดิมจี้ข้อมือตัวเองไว้ พร้อมทำท่าจะเฉือนข้อมือตัวเอง ก่อนจะวิ่งหนีไปรอบอาคารซิตี้โฮม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพยายามเกลี้ยกล่อมอีกนานกว่า 1 ชั่วโมง ชายคนดังกล่าวได้วิ่งออกจากคอนโดฯ ก่อนข้ามถนนไปอีกฝั่งจากนั้นก็วิ่งขึ้นไปชั้นที่ 2 ของอาคารมินิรัชดา ซึ่งเป็นโรงแรมที่กำลังก่อสร้างอยู่ เข้าไปขังตัวเองภายในห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่ก็ยังตามไปเจรจาเกลี้ยกล่อมเช่นเดิม จนเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ชายคนดังกล่าวกลับมีอาการคลุ้มคลั่งมากยิ่งขึ้น ใช้อาวุธมีดกรีดข้อมือตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนขึ้นมาขู่ ก่อนจะเข้าชาร์ตแย่งมีดและควบคุมตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรักษาบาดแผลตามร่างกาย
ด้าน ร.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อชายคนดังกล่าว และยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าตรวจค้นห้องพักได้เพราะยังไม่เป็นคดี โดยหลังจากนี้จะเข้าทำการตรวจสอบห้องพักของชายคนดังกล่าวว่าเป็นใครมาจากไหน และหาสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ส่วนเรื่องที่ว่าชายคนดังกล่าวคลุ้มคลั่งจากสารเสพติดหรือไม่นั้น ได้ส่งตัวให้ รพ.ตรวจสอบหาสารเสพติดแล้ว นอกจากนี้ ในส่วนทรัพย์สินที่เสียหายจะต้องรอเจ้าทุกข์มาแจ้งความเพื่อดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป