เจ้าของสุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูล 5 ตัว ที่หลุดออกจากบ้าน รุมขย้ำแม่ บก.ข่าวช่อง 5 ยินยอมให้ กทม.นำไปอยู่ในความดูแล ขอเก็บไว้เพียงลูกอีก 7 ตัว เพื่อเลี้ยงจนโต ขณะที่ บก.ข่าวช่อง 5 ลั่นมารดาปลอดภัยแล้ว แต่ไม่ขอสังฆกรรมร่วมกับเจ้าของสุนัข แม้จะแสดงความรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30,000 บาท พร้อมยกเหตุการณ์สยองเป็นกรณีศึกษาในการดำเนินคดีทางกฎหมาย
จากกรณีที่ฝูงสุนัขอเมริกันพิตบูล รุมขย้ำ นางทวีพร รุจิโมระ อายุ 74 ปี มารดาของ นายกนก รุจิโมระ อายุ 42 ปี บรรณาธิการข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ภายในซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ หมู่ 4 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2552 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สุนทร โตรอด ผกก.สน.หลักสอง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้เชิญผู้เสียหาย และ นายปรีชา อรุณมหาศน์ เจ้าของสุนัข มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีทางอาญา แต่เป็นความผิดลหุโทษสามารถเปรียบเทียบปรับได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินคดีเรื่องความผิดทางอาญาเท่านั้น ส่วนเรื่องค่าเสียหาย เป็นเรื่องที่ทางเจ้าของสุนัขจะต้องเจรจากับผู้เสียหายเอง
พ.ต.อ.สุนทร กล่าวต่อไปว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศิวรัตน์ สุวรรณกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางแค ได้ประสานเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้มีการล่ารายชื่อไม่ให้นายปรีชาเลี้ยงสุนัข โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ กทม.มารับตัวสุนัขไปดูแล สำหรับสุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูลทั้งหมด เป็นสุนัขที่มีเจ้าของไม่ใช่สุนัขเร่ร่อน หากเจ้าของไม่ยินยอมเจ้าหน้าที่ กทม.ก็ไม่สามารถนำสุนัขไปได้ ซึ่งตนได้ติดต่อไปยังนายปรีชาแล้ว ปรากฏว่า นายปรีชา ยินดีที่จะให้เจ้าหน้าที่ กทม.มารับสุนัขทั้ง 5 ตัว ไปดูแล เพราะนายปรีชาให้คำตอบว่าไม่สามารถเลี้ยงไหว เนื่องจากมีอายุมากแล้ว และสุนัขยังออกลูกมาอีก จำนวน 7 ตัว ซึ่ง นายปรีชา ขอเก็บลูกสุนัขไว้เลี้ยงจนกว่าจะโตเท่านั้น
ด้าน นายกนก กล่าวว่า เบื้องต้นอาการของมารดาปลอดภัยแล้ว แพทย์ได้ทำการเย็บแผลที่บริเวณใบหน้าทั้งหมด 52 เข็ม ด้านหลังและสะโพกแพทย์ก็ได้ทำแผลตามปกติ ส่วนการเอกซเรย์สมองและกระดูก พบว่า ไม่ได้รับความกระทบกระเทือน ส่วนเรื่องการตกลงกับคู่กรณีตนได้มอบหมายให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว เนื่องจากทางคู่กรณีไม่ติดต่อกับตนอีกเลย หลังจากที่ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ซึ่งคู่กรณีจะรับผิดชอบ แต่ต้องให้แม่ของตนพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยรวม และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแค่ส่วนหนึ่ง แต่ตนไม่ยอมจึงย้ายมารดาไปพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษ โดยตนจะออกค่ารักษาเองทั้งหมด
นายกนก กล่าวต่อไปว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.คู่กรณีได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล พร้อมกับติดต่อพยาบาลและจ่ายค่ารักษาเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท โดยไม่ติดต่อผ่านตนก่อน ซึ่งตนจะไม่เจรจาแล้ว โดยให้คู่กรณีคุยกับทนายความของตนเท่านั้น ตนคิดว่า ถ้าเจรจากันรู้เรื่องก็จะไม่ต้องว่าจ้างทนายและถึงกับดำเนินคดีอะไร แต่คู่กรณีไม่ได้มีการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจตั้งแต่แรก ตนจึงอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมารดาของตนเป็นกรณีศึกษาและจริงจังเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย
สุนัขอเมริกันพิตบูล 5 ตัวรุมขย้ำแม่ บก.ช่อง 5 สาหัส
จากกรณีที่ฝูงสุนัขอเมริกันพิตบูล รุมขย้ำ นางทวีพร รุจิโมระ อายุ 74 ปี มารดาของ นายกนก รุจิโมระ อายุ 42 ปี บรรณาธิการข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ภายในซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ หมู่ 4 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2552 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สุนทร โตรอด ผกก.สน.หลักสอง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้เชิญผู้เสียหาย และ นายปรีชา อรุณมหาศน์ เจ้าของสุนัข มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีทางอาญา แต่เป็นความผิดลหุโทษสามารถเปรียบเทียบปรับได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินคดีเรื่องความผิดทางอาญาเท่านั้น ส่วนเรื่องค่าเสียหาย เป็นเรื่องที่ทางเจ้าของสุนัขจะต้องเจรจากับผู้เสียหายเอง
พ.ต.อ.สุนทร กล่าวต่อไปว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศิวรัตน์ สุวรรณกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางแค ได้ประสานเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้มีการล่ารายชื่อไม่ให้นายปรีชาเลี้ยงสุนัข โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ กทม.มารับตัวสุนัขไปดูแล สำหรับสุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูลทั้งหมด เป็นสุนัขที่มีเจ้าของไม่ใช่สุนัขเร่ร่อน หากเจ้าของไม่ยินยอมเจ้าหน้าที่ กทม.ก็ไม่สามารถนำสุนัขไปได้ ซึ่งตนได้ติดต่อไปยังนายปรีชาแล้ว ปรากฏว่า นายปรีชา ยินดีที่จะให้เจ้าหน้าที่ กทม.มารับสุนัขทั้ง 5 ตัว ไปดูแล เพราะนายปรีชาให้คำตอบว่าไม่สามารถเลี้ยงไหว เนื่องจากมีอายุมากแล้ว และสุนัขยังออกลูกมาอีก จำนวน 7 ตัว ซึ่ง นายปรีชา ขอเก็บลูกสุนัขไว้เลี้ยงจนกว่าจะโตเท่านั้น
ด้าน นายกนก กล่าวว่า เบื้องต้นอาการของมารดาปลอดภัยแล้ว แพทย์ได้ทำการเย็บแผลที่บริเวณใบหน้าทั้งหมด 52 เข็ม ด้านหลังและสะโพกแพทย์ก็ได้ทำแผลตามปกติ ส่วนการเอกซเรย์สมองและกระดูก พบว่า ไม่ได้รับความกระทบกระเทือน ส่วนเรื่องการตกลงกับคู่กรณีตนได้มอบหมายให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว เนื่องจากทางคู่กรณีไม่ติดต่อกับตนอีกเลย หลังจากที่ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ซึ่งคู่กรณีจะรับผิดชอบ แต่ต้องให้แม่ของตนพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยรวม และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแค่ส่วนหนึ่ง แต่ตนไม่ยอมจึงย้ายมารดาไปพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษ โดยตนจะออกค่ารักษาเองทั้งหมด
นายกนก กล่าวต่อไปว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.คู่กรณีได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล พร้อมกับติดต่อพยาบาลและจ่ายค่ารักษาเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท โดยไม่ติดต่อผ่านตนก่อน ซึ่งตนจะไม่เจรจาแล้ว โดยให้คู่กรณีคุยกับทนายความของตนเท่านั้น ตนคิดว่า ถ้าเจรจากันรู้เรื่องก็จะไม่ต้องว่าจ้างทนายและถึงกับดำเนินคดีอะไร แต่คู่กรณีไม่ได้มีการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจตั้งแต่แรก ตนจึงอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมารดาของตนเป็นกรณีศึกษาและจริงจังเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย
สุนัขอเมริกันพิตบูล 5 ตัวรุมขย้ำแม่ บก.ช่อง 5 สาหัส
