“บุญรอด ตันประเสริฐ” โชว์สปิริตถอนตัวจากองค์คณะคดียึดทรัพย์แม้ว 7.6 หมื่นล้าน หลังต้องให้การคณะกรรมการสอบคำพิพากษาคดีกล้ายางรั่ว ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือก “มนตรี ยอดปัญญา” รองประธานศาลฎีกา แทน พร้อมตั้งองค์คณะ 9 คน พิจารณาคำร้องเพื่อไทยถอดถอน ป.ป.ช.ทั้งคณะ ชี้มูลตำรวจสลายม็อบ 7 ต.ค.มิชอบหรือไม่
วันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกา พิจารณาลงมติเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนวน 9 คน เป็นองค์คณะพิจารณาคำร้องที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา ก่อนส่งคำร้องมายังศาลฎีกาตั้งองค์คณะถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งคณะ 9 คน ออกจากตำแหน่ง กรณีถูกกล่าวหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ชี้มูลความผิดการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดล้อมหน้าอาคารรัฐสภามิชอบด้วยกฎหมายและผิดวินัยร้ายแรง และกรณีมีมติไล่นายตำรวจออกจากราชการ
ทั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาแล้วลงมติเลือก นายมนตรี ยอดปัญญา รองประธานศาลฎีกา นายพีรพล พิชยวัฒน์ รองประธานศาลฎีกา นายอดิศักด์ ทิมมาศย์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา นายสุทัศน์ ศิริมหาพฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรศาลฎีกา นายมานัส เหลืองประเสริฐ ประธานแผนกคดีพาณิชย์ในศาลฎีกา นายสมศักดิ์ จันทรา ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา นายยงยุทธ สุเรนท์รังสิกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายดิเรก อิงคนินันท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายสุรศักดิ์ สุวรรณประกร ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นองค์คณะ โดยขั้นตอนต่อไปองค์คณะทั้ง 9 คน จะประชุมเพื่อพิจารณาเลือก 1 ในองค์คณะเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และพิจารณาว่าจะมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่
นอกจากนี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกายังพิจารณาลงมติว่าจะอนุญาตให้ นายบุญรอด ตันประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ที่ยื่นหนังสือแจ้งขอถอนตัวจากการเป็นองค์คณะในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 7.6 หมื่นล้าน ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่ พร้อมกับพิจารณาลงมติเลือกองค์คณะผู้พิพากษาใหม่แทน นายปัญญารัตน์ วิระยะวานิช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์
โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเสียงส่วนใหญ่ลงมติอนุญาตให้ นายบุญรอด ถอนตัวจากการเป็นองค์คณะได้ นอกจากนี้ เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมยังมีมติเลือกนายมนตรี ยอดปัญญา รองประธานศาลฎีกา เป็นองค์คณะแทน และเลือก นายอดิศักดิ์ ทิมมาศย์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกาเป็นองค์คณะแทน นายปัญญารัตน์
ด้าน นายบุญรอด กล่าวว่า ที่ยื่นหนังสือขอถอนตัวจากการเป็นองค์คณะคดียึดทรัพย์ สืบเนื่องจากขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลภายนอกรู้ผลคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อกล้ายางก่อนการอ่านคำพิพากษาจริงหรือไม่ ซึ่งตนอยู่ในข่ายที่อาจถูกคณะกรรมการเรียกไปสอบถาม จึงคิดว่าเพื่อเป็นการแสดงสปิริต ไม่ให้เกิดความมัวหมอง และเป็นช่องว่างให้คู่ความโจมตี จึงเห็นว่าระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนก็ไม่ควรนั่งพิจารณาคดี ดังนั้นต้องการเคลียร์ให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้คณะกรรมการยังไม่ได้เรียกตนไปให้ข้อมูล ซึ่งคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร