ภายหลังที่มีพลเมืองดีคอยแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับปัญหาสังคมให้กับ “ทีมข่าวอาชญากรรม ASTV ผู้จัดการรายวัน” ได้ตีแผ่เกี่ยวกับภัยบนรถเมล์ของพวกโรคจิต ล่าสุดทีมงานได้รับทราบจากพลเมืองดีท่านหนึ่งที่ติดตามอ่านข่าวในเว็บเมเนเจอร์ ถึงสถานที่กลางคืนแห่งหนึ่งที่มีวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบสินค้าราคาถูกหรือสินค้ามือสอง หรือที่ใครเรียกว่า “สะพานพุทธ” นั่นเอง
“สะพานพุทธ” ถือเป็นแหล่งชอปยามค่ำคืนอันดับต้นๆ ของคนกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งชอปปิ้งยามค่ำคืนแห่งแรกๆ ของเมืองกรุงเทพฯ เท่าที่ทราบมาสมัยก่อนสะพานพุทธไม่ใช่ตลาดชอปปิ้ง แต่เป็นสถานที่ที่ชุมนุมของนักเรียนหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นสวนกุหลาบวิทยาลัย หรือวิทยาลัยเพาะช่าง สำหรับสองโรงเรียนนี้จะมีเยอะเป็นพิเศษ แต่ก็มีสถาบันอื่นอีกด้วย เนื่องจากตอนนี้ที่แห่งนี้ เป็นที่นั่งพักกินลมชมวิว หรือชิลๆ กันได้ตามประสาวัยรุ่นนั่นเอง นอกจากนี้ ตลาดสะพานพุทธเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักชอปของถูก เนื่องจากของที่นี่อยู่ในราคามาตรฐานตลาดนัดที่ทั่วไปมักจะตั้งราคาไว้ 199 บาท ซึ่งสามารถต่อรองราคาลงมาได้อีกแล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัว ได้ตามความสามารถของผู้ซื้อแต่ละคน นอกจากเสื้อผ้าปะยี่ห้อดังแล้ว กางเกงยีนส์ สะพานพุทธ ก็ขึ้นชื่อมากพอกับจตุจักรเลยทีเดียว ผิดกันอย่างเดียวคือ เวลาที่เลือกต้องใช้สายตาดีๆ หน่อย เพราะแสงสว่างที่มีอยู่น้อยนิดอาจหลอกตา ไม่เห็นตำหนิของเสื้อผ้าได้
นั่นอาจเป็นเพียงภาพเก่าๆ ที่เคยผ่านตามาในสมัยก่อน ถ้าหากไม่ได้ลองไปเดินสักเดือนสองเดือนแล้วจะรู้ว่าตลาดสะพานพุทธมีการเปลี่ยนไปมากน้อยเท่าใดแล้วทันทีที่ผู้แจ้งเบาะแสแนะนำให้ไปดูสิ่งที่เปลี่ยนไปของตลาดสะพานพุทธใน พ.ศ.นี้ ถึงกับต้องตะลึงว่าจากที่ผ่านมาภาพการซื้อขายของราคาถูกผู้คนเดินเยอะแยะ เบียดเสียดเต็มสองข้างทางใช่ก็ยังคงเป็นอยู่เช่นเดิม แต่ที่เปลี่ยนวิถีออกไปคือพ่อค้าแม่ค้า
หลายคนคงสงสัยทำไมพ่อค้าแม่ค้าถึงเปลี่ยนไป ทันทีที่ผู้สื่อข่าวติดตามลงไปตรวจสอบเบาะแสตามที่ได้รับแจ้งถึงกับตกใจ แผงลอยพ่อค้าแม่ค้าที่วางขายเสื้อผ้ากางเกงยีนส์แผงหนึ่ง กลับเปลี่ยนแปลงเป็นแผงไฮโล โดยมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายล้อมจับกลุ่มยืนเป็นวงกลมมือกำเงินรอแทงกันหน้าสลอน เจ้ามือก็ไม่ใช่ใคร พ่อค้ากันเองนี่แหละ ถ้าจะถามว่าแปลกไหม บอกได้เลยว่า มากมาย “เฮ้ย! มันบ้าไปแล้วตลาดนัดขายของ หรือบ่อนกันแน่วะ!” ทำไมมันเล่นกันโจ๋งครึ่มแบบนี้ไม่แคร์สายตาประชาชนที่เดินผ่านเลยสักคน จากการสังเกตการณ์ผู้คนที่เดินผ่านต่างส่ายหัวเมื่อพบเห็นกับภาพเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดบนตลาดแห่งนี้ อีกทั้งจุดที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจับกลุ่มเล่นไฮโลอยู่ไกลไม่ห่างจุดที่ตำรวจจราจรดักจับรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมายเพียง 50 เมตรเท่านั้น!!!
งานนี้ต้องถาม กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ตะโกนถามไปยัง เจ้าของพื้นที่ตัวจริงเสียงจริง ว่าทำไมถึงปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นพนันเย้ยฟ้าใจกลางตลาดนัดกลางคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง ถ้าจะบอกว่าไม่รู้ไม่ทราบ หรือขอเวลาตรวจสอบก่อนละก็พอเถอะ งานนี้มีพวกมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ เศษเงินจากพวกเหล่านี้สามารถปิดหูปิดตาได้ไม่ยาก ถ้าจะบอกไม่เห็น นี่เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่เจอในสะพานพุทธ
หลังเจอภาพบาดตาไม่ทันไร เดินย่ำไปเรื่อย แปลกใจเห็นรัฐบาลปราบเทปผีซีดีเถื่อนแทบตาย ไหนมาวางขายเป็นดอกเห็ดเต็มสองข้างทาง จะขายถูกกฎหมายก็ไม่น่าใช่ เล่นก๊อบไรต์มาขายกันสบายใจ ที่สะดุดมากไปกว่านั้น หนังโป๊นี่หว่าขายกันจะจะบนถนนไม่ต้องอายต้องหลบอีกแล้ว ตำรวจ-เทศกิจ หายไปไหนหมด เห็นขยันจับกันจังต่อหน้าจะจะแบบนี้ไม่ยักจะลงมือทำอะไร งานนี้อิทธิพลมืดเล่นจ่ายทั้งตำรวจ เทศกิจ อีกหนึ่งสิ่งที่พูดถึงไม่ได้เกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าจอดรถจักรยานยนต์จากผู้คนที่มาเดินตลาดแห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยได้ข่าวว่ามีการปราบปรามพวกรีดเก็บเงินค่าจอดกับพวกนี้ไปแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการเรียกเก็บค่าจอดรถคันละ 20 บาท แถมมีการจองแหล่งทำเลที่จอดกันเป็นกลุ่ม โบกมือเรียกให้จอดอยู่ตามข้างทาง ถามเงินที่เรียกเก็บรถจักรยานยนต์แต่ละคันเอาไปทำไร แบ่งกันเองในกลุ่ม หรือ ส่งส่วยให้ใคร หากเงินที่เสียตรงนี้เอาไปทำไรให้ก่อประโยชน์ต่อสังคมบ้านเมืองก็คงจะดี ไม่ใช่มาตกให้กับบุคคลเหล่านี้
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้พลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามาและทางทีมงานได้ลงไปตรวจสอบ ยังไม่รวมถึงโต๊ะบอลที่พ่อค้าแม่ค้านำโพยบอลมากาต่อหน้าต่อตา เดินถือกันอย่างเปิดเผย ไม่เกรงกลัวสายต่อผู้คนที่มาเดินจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าเลย ตกลงว่า “ตลาดสะพานพุทธ” พ.ศ.นี้วิ่งตามกระแสโลกไปแล้ว ภาพอดีตที่ดีคงไม่มีให้เหตุอีกแล้ว ต่อไปคงเปลี่ยนชื่อสถานที่แห่งนี้เป็น “ตลาดผี” จะดีกว่าไหมครับ
“สะพานพุทธ” ถือเป็นแหล่งชอปยามค่ำคืนอันดับต้นๆ ของคนกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งชอปปิ้งยามค่ำคืนแห่งแรกๆ ของเมืองกรุงเทพฯ เท่าที่ทราบมาสมัยก่อนสะพานพุทธไม่ใช่ตลาดชอปปิ้ง แต่เป็นสถานที่ที่ชุมนุมของนักเรียนหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นสวนกุหลาบวิทยาลัย หรือวิทยาลัยเพาะช่าง สำหรับสองโรงเรียนนี้จะมีเยอะเป็นพิเศษ แต่ก็มีสถาบันอื่นอีกด้วย เนื่องจากตอนนี้ที่แห่งนี้ เป็นที่นั่งพักกินลมชมวิว หรือชิลๆ กันได้ตามประสาวัยรุ่นนั่นเอง นอกจากนี้ ตลาดสะพานพุทธเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักชอปของถูก เนื่องจากของที่นี่อยู่ในราคามาตรฐานตลาดนัดที่ทั่วไปมักจะตั้งราคาไว้ 199 บาท ซึ่งสามารถต่อรองราคาลงมาได้อีกแล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัว ได้ตามความสามารถของผู้ซื้อแต่ละคน นอกจากเสื้อผ้าปะยี่ห้อดังแล้ว กางเกงยีนส์ สะพานพุทธ ก็ขึ้นชื่อมากพอกับจตุจักรเลยทีเดียว ผิดกันอย่างเดียวคือ เวลาที่เลือกต้องใช้สายตาดีๆ หน่อย เพราะแสงสว่างที่มีอยู่น้อยนิดอาจหลอกตา ไม่เห็นตำหนิของเสื้อผ้าได้
นั่นอาจเป็นเพียงภาพเก่าๆ ที่เคยผ่านตามาในสมัยก่อน ถ้าหากไม่ได้ลองไปเดินสักเดือนสองเดือนแล้วจะรู้ว่าตลาดสะพานพุทธมีการเปลี่ยนไปมากน้อยเท่าใดแล้วทันทีที่ผู้แจ้งเบาะแสแนะนำให้ไปดูสิ่งที่เปลี่ยนไปของตลาดสะพานพุทธใน พ.ศ.นี้ ถึงกับต้องตะลึงว่าจากที่ผ่านมาภาพการซื้อขายของราคาถูกผู้คนเดินเยอะแยะ เบียดเสียดเต็มสองข้างทางใช่ก็ยังคงเป็นอยู่เช่นเดิม แต่ที่เปลี่ยนวิถีออกไปคือพ่อค้าแม่ค้า
หลายคนคงสงสัยทำไมพ่อค้าแม่ค้าถึงเปลี่ยนไป ทันทีที่ผู้สื่อข่าวติดตามลงไปตรวจสอบเบาะแสตามที่ได้รับแจ้งถึงกับตกใจ แผงลอยพ่อค้าแม่ค้าที่วางขายเสื้อผ้ากางเกงยีนส์แผงหนึ่ง กลับเปลี่ยนแปลงเป็นแผงไฮโล โดยมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายล้อมจับกลุ่มยืนเป็นวงกลมมือกำเงินรอแทงกันหน้าสลอน เจ้ามือก็ไม่ใช่ใคร พ่อค้ากันเองนี่แหละ ถ้าจะถามว่าแปลกไหม บอกได้เลยว่า มากมาย “เฮ้ย! มันบ้าไปแล้วตลาดนัดขายของ หรือบ่อนกันแน่วะ!” ทำไมมันเล่นกันโจ๋งครึ่มแบบนี้ไม่แคร์สายตาประชาชนที่เดินผ่านเลยสักคน จากการสังเกตการณ์ผู้คนที่เดินผ่านต่างส่ายหัวเมื่อพบเห็นกับภาพเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดบนตลาดแห่งนี้ อีกทั้งจุดที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจับกลุ่มเล่นไฮโลอยู่ไกลไม่ห่างจุดที่ตำรวจจราจรดักจับรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมายเพียง 50 เมตรเท่านั้น!!!
งานนี้ต้องถาม กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ตะโกนถามไปยัง เจ้าของพื้นที่ตัวจริงเสียงจริง ว่าทำไมถึงปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นพนันเย้ยฟ้าใจกลางตลาดนัดกลางคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง ถ้าจะบอกว่าไม่รู้ไม่ทราบ หรือขอเวลาตรวจสอบก่อนละก็พอเถอะ งานนี้มีพวกมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ เศษเงินจากพวกเหล่านี้สามารถปิดหูปิดตาได้ไม่ยาก ถ้าจะบอกไม่เห็น นี่เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่เจอในสะพานพุทธ
หลังเจอภาพบาดตาไม่ทันไร เดินย่ำไปเรื่อย แปลกใจเห็นรัฐบาลปราบเทปผีซีดีเถื่อนแทบตาย ไหนมาวางขายเป็นดอกเห็ดเต็มสองข้างทาง จะขายถูกกฎหมายก็ไม่น่าใช่ เล่นก๊อบไรต์มาขายกันสบายใจ ที่สะดุดมากไปกว่านั้น หนังโป๊นี่หว่าขายกันจะจะบนถนนไม่ต้องอายต้องหลบอีกแล้ว ตำรวจ-เทศกิจ หายไปไหนหมด เห็นขยันจับกันจังต่อหน้าจะจะแบบนี้ไม่ยักจะลงมือทำอะไร งานนี้อิทธิพลมืดเล่นจ่ายทั้งตำรวจ เทศกิจ อีกหนึ่งสิ่งที่พูดถึงไม่ได้เกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าจอดรถจักรยานยนต์จากผู้คนที่มาเดินตลาดแห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยได้ข่าวว่ามีการปราบปรามพวกรีดเก็บเงินค่าจอดกับพวกนี้ไปแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการเรียกเก็บค่าจอดรถคันละ 20 บาท แถมมีการจองแหล่งทำเลที่จอดกันเป็นกลุ่ม โบกมือเรียกให้จอดอยู่ตามข้างทาง ถามเงินที่เรียกเก็บรถจักรยานยนต์แต่ละคันเอาไปทำไร แบ่งกันเองในกลุ่ม หรือ ส่งส่วยให้ใคร หากเงินที่เสียตรงนี้เอาไปทำไรให้ก่อประโยชน์ต่อสังคมบ้านเมืองก็คงจะดี ไม่ใช่มาตกให้กับบุคคลเหล่านี้
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้พลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามาและทางทีมงานได้ลงไปตรวจสอบ ยังไม่รวมถึงโต๊ะบอลที่พ่อค้าแม่ค้านำโพยบอลมากาต่อหน้าต่อตา เดินถือกันอย่างเปิดเผย ไม่เกรงกลัวสายต่อผู้คนที่มาเดินจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าเลย ตกลงว่า “ตลาดสะพานพุทธ” พ.ศ.นี้วิ่งตามกระแสโลกไปแล้ว ภาพอดีตที่ดีคงไม่มีให้เหตุอีกแล้ว ต่อไปคงเปลี่ยนชื่อสถานที่แห่งนี้เป็น “ตลาดผี” จะดีกว่าไหมครับ
