ศาลยกฟ้องคดี “ลีเดีย-แมทธิว” หมิ่น “หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม” สวนกลับหมอดูมั่ว อาศัยผู้หญิงหากิน ทำนายดวงท้องไม่มีพ่อ ศาลชี้ใช้สิทธิปกป้องชื่อเสียงตามสมควร ไม่ได้จงใจกล่าวหาโจทก์เสียหาย พร้อมยกฟ้องกรณีเรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
วันนี้ (2 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ อ.485/2552 ที่ นายศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม อาชีพหมอดูดาราเป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา หรือ ลีเดีย นักร้องสาวฉายา “เจ้าหญิงอาร์แอนด์บี” ค่าย อาร์เอส และ นายแมทธิว ดีน ฉันทวานิช แฟนหนุ่ม เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
โดยวันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ส่งเสมียนทนายมาฟังคำสั่งแทน
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเดือน พ.ย.2551 สื่อมวลชนนำดวงชะตาของจำเลยที่ 1 มาให้โจทก์ทำนาย โดยโจทก์ ทำนายว่า ตามช่วงเวลาดังกล่าวดวงชะตาของจำเลยที่ 1 มีเกณฑ์จะตั้งครรภ์ เป็นเหตุให้ครอบครัวของจำเลยทั้งสองไม่พอใจ กระทั่งวันที่ 11-17 ธ.ค.2551 จำเลยทั้งสองได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทั้งรายการโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ว่า เป็นคนไม่มีหลักวิชาการ ไม่ประกอบอาชีพสุจริต อาศัยผู้หญิงหากิน พยายามเอาเปรียบประชาชน ทำนายชะตาแบบมั่วๆ ทำให้คนอื่นเสียหาย มีพฤติกรรมต่ำช้าที่สุดในโลก โดยจำเลยที่ 1 ยังใส่ความโจทก์อีกว่า โจทก์ไปคอนเฟิร์มยืนยันว่า จำเลยที่ 1 จะท้องแบบไม่มีพ่อ
ทั้งนี้ แม้ว่าโจทก์ จะเคยทำนายดวงชะตาของจำเลยที่ 1 แต่ไม่ได้เคยให้สัมภาษณ์ ว่า ท้องจริงๆ หรือ ท้องแบบไม่มีพ่อ ดังที่จำเลยกล่าวหาโจทก์แต่อย่างใด ดังนั้น การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง และขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า ในทางนำสืบโจทก์อ้างว่าหนังสือพิมพ์สยามดารา นำคำทำนายของโจทก์ไปลงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ให้สัมภาษณ์ แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว จึงมีสาเหตุอันควรให้จำเลยที่ 1 เข้าใจว่า โจทก์ให้สัมภาษณ์ไปตามนั้น ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 หาได้มีเจตนาให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เป็นการปกป้องชื่อเสียงตัวเอง นอกจากนี้ ยังได้ความจากการไต่สวนว่าโจทก์มักทำนายบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งหากทำนายได้ถูกต้อง จะทำให้โจทก์มีชื่อเสียงมากขึ้น ตรงกันข้ามกับจำเลยที่ 1 เพราะไม่ว่าโจทก์จะทำนายถูก หรือผิด จำเลยที่ 1 ก็ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น ขณะการให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 2 นั้น เป็นปกติวิสัยของบุคคลทั่วไป ที่ต้องปกป้องบุคคลที่รัก ซึ่งถูกกระทำอย่างน่าละอายไม่เป็นธรรม แม้จะมีข้อความที่รุนแรงไปบ้าง แต่ไม่มีเจตนาใส่ร้ายให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ฟ้องโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง และยกฟ้องในกรณีที่โจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสอง มูลค่า 100 ล้านบาทด้วย
ด้าน นายสาคร ศิริชัย ทนายความ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม เปิดเผยว่า ที่ศาลยกฟ้องคดีนี้ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเหตุใช้สิทธิปกป้องตัวเอง จึงไม่ต้องรับโทษ ซึ่งฝ่ายโจทก์จะขอใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ส่วนในคดีแพ่งนั้นจะแยกฟ้องต่างหาก เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้ศาลจะยกฟ้องในคดีนี้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับคดีที่ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม ถูก ลีเดีย ฟ้องเป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาท เพราะข้อเท็จจริงเป็นคนละเรื่องกัน
วันนี้ (2 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ อ.485/2552 ที่ นายศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม อาชีพหมอดูดาราเป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา หรือ ลีเดีย นักร้องสาวฉายา “เจ้าหญิงอาร์แอนด์บี” ค่าย อาร์เอส และ นายแมทธิว ดีน ฉันทวานิช แฟนหนุ่ม เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
โดยวันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ส่งเสมียนทนายมาฟังคำสั่งแทน
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเดือน พ.ย.2551 สื่อมวลชนนำดวงชะตาของจำเลยที่ 1 มาให้โจทก์ทำนาย โดยโจทก์ ทำนายว่า ตามช่วงเวลาดังกล่าวดวงชะตาของจำเลยที่ 1 มีเกณฑ์จะตั้งครรภ์ เป็นเหตุให้ครอบครัวของจำเลยทั้งสองไม่พอใจ กระทั่งวันที่ 11-17 ธ.ค.2551 จำเลยทั้งสองได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทั้งรายการโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ว่า เป็นคนไม่มีหลักวิชาการ ไม่ประกอบอาชีพสุจริต อาศัยผู้หญิงหากิน พยายามเอาเปรียบประชาชน ทำนายชะตาแบบมั่วๆ ทำให้คนอื่นเสียหาย มีพฤติกรรมต่ำช้าที่สุดในโลก โดยจำเลยที่ 1 ยังใส่ความโจทก์อีกว่า โจทก์ไปคอนเฟิร์มยืนยันว่า จำเลยที่ 1 จะท้องแบบไม่มีพ่อ
ทั้งนี้ แม้ว่าโจทก์ จะเคยทำนายดวงชะตาของจำเลยที่ 1 แต่ไม่ได้เคยให้สัมภาษณ์ ว่า ท้องจริงๆ หรือ ท้องแบบไม่มีพ่อ ดังที่จำเลยกล่าวหาโจทก์แต่อย่างใด ดังนั้น การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง และขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า ในทางนำสืบโจทก์อ้างว่าหนังสือพิมพ์สยามดารา นำคำทำนายของโจทก์ไปลงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ให้สัมภาษณ์ แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว จึงมีสาเหตุอันควรให้จำเลยที่ 1 เข้าใจว่า โจทก์ให้สัมภาษณ์ไปตามนั้น ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 หาได้มีเจตนาให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เป็นการปกป้องชื่อเสียงตัวเอง นอกจากนี้ ยังได้ความจากการไต่สวนว่าโจทก์มักทำนายบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งหากทำนายได้ถูกต้อง จะทำให้โจทก์มีชื่อเสียงมากขึ้น ตรงกันข้ามกับจำเลยที่ 1 เพราะไม่ว่าโจทก์จะทำนายถูก หรือผิด จำเลยที่ 1 ก็ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น ขณะการให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 2 นั้น เป็นปกติวิสัยของบุคคลทั่วไป ที่ต้องปกป้องบุคคลที่รัก ซึ่งถูกกระทำอย่างน่าละอายไม่เป็นธรรม แม้จะมีข้อความที่รุนแรงไปบ้าง แต่ไม่มีเจตนาใส่ร้ายให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ฟ้องโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง และยกฟ้องในกรณีที่โจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสอง มูลค่า 100 ล้านบาทด้วย
ด้าน นายสาคร ศิริชัย ทนายความ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม เปิดเผยว่า ที่ศาลยกฟ้องคดีนี้ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเหตุใช้สิทธิปกป้องตัวเอง จึงไม่ต้องรับโทษ ซึ่งฝ่ายโจทก์จะขอใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ส่วนในคดีแพ่งนั้นจะแยกฟ้องต่างหาก เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้ศาลจะยกฟ้องในคดีนี้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับคดีที่ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม ถูก ลีเดีย ฟ้องเป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาท เพราะข้อเท็จจริงเป็นคนละเรื่องกัน