เหลือบสังคมทำแสบ หลอกยืมเก้าอี้พลาสติกวัดกว่า 150 ตัว อ้างเอาไปจัดงานทำบุญ แต่ที่ไหนได้ดันเอาไปขายร้านขายของเก่า ร้อนถึง ส.ก.เขต-ผู้ดูแลวัด-ตำรวจ ขอหมายค้นเข้าตรวจร้านรับซื้อ พบเก้าอี้ถูกนำมาขาย แถมขูดลบชื่อออก ก่อนคุมตัวเจ้าของร้านสอบ อ้างซื้อมาจากชายคนหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าเป็นของวัดเลยรับซื้อไว้
วันนี้ (29 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.อำนวย โพธิ์แสง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ดอนเมือง นางกนกนุช นากสุวรรณ ส.ก.เขตดอนเมือง เขต 2 และ นายสุรศักดิ์ พูนเกิดผล อายุ 41 ปี ผู้ดูแลวัดสายอัมพันธ์เอมสาร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง เดินทางเข้าตรวจสอบ ร้านรับซื้อของเก่า “โกดังสยาม” ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง หลังได้รับแจ้งว่าร้านดังกล่าวรับซื้อเก้าอี้ที่ถูกขโมยมาจากวัด
เมื่อไปถึงก็พบนางประภาวรินทร์ กลิ่นฟุ้ง ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้นำใบอนุญาตให้ค้าของเก่าของกรมการปกครองให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นใบอนุญาตที่ถูกต้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นก่อนเข้าไปตรวจสอบภายในร้านก็พบเก้าอี้พลาสติกกว่า 100 ตัววางกองอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเก้าอี้แต่ละตัวและมีร่องรอยการขูดชื่อที่เขียนอยู่หลังเก้าอี้ออกจึงยึดไว้ตรวจสอบ ก่อนเชิญนางประภาวรินทร์สอบปากคำที่ สน.ดอนเมือง
จากการสอบสวน นางประภาวรินทร์ให้การอ้างว่า เก้าอี้ดังกล่าวรับซื้อมาจากชายคนหนึ่งที่เอามาขายให้ที่ร้านโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเก้าอี้ดังกล่าวเป็นของวัดเลยรับซื้อไว้ เพราะเห็นว่ายังมีสภาพดีและยังใหม่อยู่ จากนั้นตนจะเอาไปขายต่อในราคาตัวละ 80 บาท
ด้าน นายสุรศักดิ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีชายอ้างว่าชื่อ นายวราพงษ์ ป่ายาง มายืมเก้าอี้ของวัด พร้อมอ้างว่าจะเอาไปจัดงานทำบุญ โดยมาของยืมสองรอบ รอบแรกมาขนไป 100 ตัว รอบสองก็มาขนเอาไปอีก 50 ตัว ก่อนจะแจ้งตนว่าพรุ่งนี้เช้าจะมานิมนต์พระไปทำบุญที่บ้าน พวกตนก็รออยู่จนวันรุ่งขึ้นนายวราพงษ์ก็ไม่ได้มานิมนต์พระตามนัด แถมยังไม่เอาเก้าอี้ที่ยืมไปมาคืนอีกด้วย
นายสุรศักดิ์กล่าวต่อว่า ตนเลยมั่นใจว่าเก้าอี้ต้องถูกขโมยไปขายแน่นอน จึงไปสอบถามจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ตามวัดและชุมชนย่านดอนเมืองทั้งหมด ก็ทราบว่า เคยถูกคนร้ายขโมยเก้าอี้ไปเช่นกันโดยคนมีพฤติกรรมแบบเดียวกัน คือจะมาทำทีขอยืมเก้าอี้วัดไปจัดงานบุญ แล้วก็หายไปเลย จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีชาวบ้านมาแจ้งว่าเห็นคนเอาเก้าอี้มาขายที่ร้านดังกล่าวจึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ต่อนางประภาวรินทร์ไว้ก่อน โดยหลังจากนี้ขออนุมัติหมายจับนายวราพงษ์ ป่ายาง ในข้อหาลักทรัพย์ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าชื่อที่คนร้ายใช้นั้นเป็นชื่อปลอม ไม่มีอยู่ในทะเบียนราษฎร ซึ่งจะประสานให้ผ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป