แท็กซี่พุ่งชน จยย.ดับ หลังถูกยิงใส่ เหตุแค่ขับรถปาดหน้า!

2 วัยรุ่นซ้อนท้าย จยย.พากันกลับบ้านหลังกลับจากท่องราตรี ระหว่างทางถูกแท็กซี่ขับปาดหน้า ทำให้ไม่พอใจ ชักอาวุธปืนยิงใส่แท็กซี่ 2 นัด เจ็บเล็กน้อย แต่แท็กซี่ฮึดสู้ขับรถไล่ตามก่อนพุ่งชน จยย. ล้มกลางถนน เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1

วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.ชาตรี สีดาคำ พนักงาสอบสวน (สบ 3) สน.บุคคโล ได้รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่พุ่งชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ ซอยรัชดา 5 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า นีโอ สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน รคง 437 กทม. มีร่องรอยถูกชนล้มคว่ำกลางถนนเลนที่ 2 ใกล้กันพบรถแท็กซี่ยี่ห้อยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพูขาว หมายเลขทะเบียน ทว 4784 กทม.จอดอยู่เลนซ้ายริมฟุตปาธด้านหน้ามีรอยบุบเสียหายเล็กน้อย

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายนิพัฒน์ สุขแสงพนมรุ้ง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 45 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย นายเดชาวัฒน์ สุขชู อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 ซอยจรัญสนิทวงศ์ แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. ถูกนำตัวส่ง รพ.ทหารเรือ โดยนายนิพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวทั้ง 2 รายส่งรพ.ตำรวจ แต่นายนิพัฒน์ เกิดอาการช๊อคและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นคนขับรถแท็กซี่ ไม่ทราบชื่อนามสกุล ถูกยิงเข้าที่ไหล่ซ้าย

พ.ต.ท.ชาตรี กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบก่อนเกิดเหตุนายนิพัฒน์ และนายเดชาวัฒน์ ได้ขับขี่รถจยย.กลับบ้านหลังจากไปเที่ยวสถานบันเทิง ขณะที่ขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่นั้น คนขับรถแท็กซี่ได้ขับรถปาดหน้าทำให้นายเดชาวัฒน์ และนายนิพัฒน์เกิดความไม่พอใจ เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงตลาดพลู แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี ซึ่งเป็นจังหวะที่รถติดไฟแดง นายเดชาวัฒน์ จึงชักอาวุธปืนขนาด .32 ยิงใส่คนขับรถแท็กซี่ จำนวน 2 นัด กระสุนถูกที่ไหล่ซ้ายของคนขับแท็กซี่เพียงนัดเดียวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

พ.ต.ท.ชาตรี กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นนายเดชาวัฒน์และนายนิพัฒน์ จึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนี แต่คนขับรถแท็กซี่ได้ขับรถไล่ติดตามไป จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ คนขับรถแท็กซี่ตัดสินใจขับรถพุ่งชนจนรถ จยย.ล้มลงจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับรถแท็กซี่ได้เรียกรถแท็กซี่คันอื่นพาส่งโรงพยาบาล อย่าไรก็ตามจะต้องติดตามคนขับรถแท็กซี่มาสอบปากคำอย่างละเอียด รวมถึงพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งอายัดตัวนายเดชาวัฒน์ ไว้สอบปากคำก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป