รวบหนุ่ม ปวส.ฆ่าหั่นศพเกย์คู่ขา

ตำรวจลุมพินี ตามรวบนักศึกษา ปวส.สถาบันดัง ก่อคดีสยองฆ่าหั่นศพเกย์หนุ่มคู่ขา ก่อนนำชิ้นส่วนอวัยวะยัดถังน้ำซุกบ้านร้าง สารภาพรู้จักเหยื่อผ่านแคมฟร็อก แล้วนัดกันไปสำเร็จความใคร่ แต่ผู้ตายดึงดันขอร่วมเพศทางประตูหลังจึงต้องลงมือฆ่าก่อนขโมยทรัพย์สิน สุดท้ายตายน้ำตื้นเอาบัตรเครดิตผู้ตายไปกดเงินใช้ เลยถูกตำรวจตามจับกุมได้

วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา18.00 น. พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส. พ.ต.ต.วรวิทย์ จันทร์วรศิริ สว.สส.นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมตัวนายณัฐ ฉายานนท์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี อยู่บ้านเลขที่ 8/71 หมู่ 4 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง พ 6553 จำนวน 1 คัน โทรศัพม์มือถือ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง กล้องดิจิตอล 1 ตัว และบัตรเดรดิตของนายฐิติรัตน์ สมหมาย อายุ 37 ปี อีกจำนวนหลายใบ

พ.ต.อ.สมประสงค์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย.52 น.ส.ศันษนีย์ สมหมาย ซึ่งเป็นน้องสาวของนายฐิติรัตน์ สมหมาย อายุ 37 ปี ได้เข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ว่านายฐิติรัตน์พี่ชายซึ่งเป็นพนักงานขายยาของบริษัทยาชื่อดังแห่งหนึ่งได้หายตัวไปหลังเดินทางมาประชุมที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ทำการลงพื้นที่และเช็กข้อมูลเบาะแสจากอุปกรณ์เครื่องใช้ของนายฐิติรัตน์ทั้งหมด

กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายณัฐ ผู้ต้องหารายนี้ได้นำเอาบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นของนายฐิติรัตน์ ไปกดเงินสดจากตู้กดเงินอัตโนมัติ บริเวณด้านหน้าร้าน 7-11 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และนำไปกดอีกครั้งบริเวณหน้าโรงเรียนพงษ์สวัสดิ์ ถนนพิบูลสงคราม จึงนำกำลังไปดักซุ่มสังเกตพฤติกรรมของนายณัฐที่บ้านพัก เมื่อนายณัฐเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงอาการตกใจพยายามจะวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน แต่ชุดจับกุมสามารถคว้าตัวเอาไว้ได้ก่อนเชิญตัวมาสอบสวนที่ สน.ลุมพินี

จากการสอบสวนนายณัฐให้การว่า ตนเป็นผู้ลงมือฆ่านายฐิติรัตน์ ก่อนลักทรัพย์สินทั้งหมดมา โดยก่อนหน้านี้รู้จักกับนายฐิติรัตน์ผ่านโปรแกรมแครมฟร็อกจนเกิดความสนิทสนมและนัดไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา พอเจอหน้ากัน นายฐิติรัตน์ได้ขอใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ตน โดยจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน จำนวน 1,000 บาท ตนจึงตกลงและพานายฐิติรัตน์ไปที่ห้องเลขที่ 11 ชั้น 2 หอพักลูกเกด ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี จากนั้นนายฐิติรัตน์ก็ใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ตนจนเสร็จกิจ

นายณัฐให้การต่อว่า หลังเสร็จกิจแทนที่นายฐิติรัตน์จะจ่ายเงินตามข้อตกลง แต่กลับดึงดันที่จะร่วมเพศทางทวารหนักของตนให้ได้ ซึ่งตนไม่ยินยอมจนเกิดการชกต่อยกันขึ้น เมื่อตนสบโอกาสขึ้นคร่อมร่างของนายฐิติรัตน์ได้จึงใช้มือบีบคอจนถึงแก่ความตาย จากนั้นตนก็หมกศพเอาไว้ในห้องเป็นเวลา 1 คืน รอให้ถึงรุ่งเช้าแล้วไปซื้อถังน้ำขนาดใหญ่จำนวน 2 ใบย้อนกลับมาที่ห้องอีกครั้ง ก่อนจะใช้มีดกับหินเจียรตัดคอ แขน ขาและอวัยวะต่างๆ ของนายฐิติรัตน์ออกจากกันเพื่อความสะดวกในการนำชิ้นส่วนยัดใส่ถังไปทิ้งอำพรางคดี

“เมื่อผมหั่นศพยัดใส่ถังเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้นำขนใส่ท้ายรถแคมรี่ป้ายแดงของคนตาย ขับไปทิ้งในบ้านร้างแห่งหนึ่งซึ่งอยู่หลังบ้านพักผม จากนั้นก็นำรถไปจอดที่คอนโดแกรนด์ริเวอร์ วิว ทาวเวอร์ ถนนพิบูลสงคราม ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน สำหรับทรัพย์สินอื่นๆ นั้นเอาไปเก็บไว้ที่บ้านพัก แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้เพราะนำบัตรเงินสดของคนตายไปกดเงินออกมาใช้” นายณัฐกล่าว

จากนั้นเมื่อเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี ได้นำกำลังไปตรวจสอบในบ้านร้างซึ่งตั้งอยู่หลังบ้านของนายณัฐ ผู้ต้องหา ปรากฏว่าพบถังน้ำขนาดใหญ่ 2 ใบ ภายในบรรจุชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ซึ่งมีสภาพเน่าเปื่อยอยู่จริง จึงควบคุมตัวนายณัฐ เอาไว้เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนประสานงานกับตำรวจท้องที่ จ.นนทบุรี เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป