2 คนร้าย งัดประตูโบสถ์เข้าไปโจรกรรมพระพุทธรูปหลวงปู่นิล พระเนื้อทองสัมฤทะ สมัยตอนปลายกรุงศรีอยุธยาของวัดกลางเกร็ด ตำรวจเชื่อคนร้ายทำตามใบสั่งเซียนพระ และนักสะสมของเก่า ขณะที่ชาวบ้านรุมสาปแช่งให้มีอันเป็นไป
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุจาก พระอธิการสมนึก สิทธิมโน เจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ด หมู่ 1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า พระพุทธรูปหลวงปู่นิล เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ สมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือของชาวบ้านได้ถูกกลุ่มคนร้ายเข้ามาทำการโจรกรรมลักองค์พระพุทธรูปดังกล่าวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ต.วิชิต จันทร์เอี่ยม สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณโบสถ์หลังใหม่ภายในวัด พบกลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมายืนมุงที่หน้าโบสถ์จำนวนมาก พร้อมกับสาปแช่งให้กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุให้มีอันเป็นไปต่างๆ นานา
ทั้งนี้ ที่บริเวณกลางโบสถ์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดต่างๆ พบว่า ที่บริเวณโต๊ะบูชาขององค์หลวงพ่อนิล ได้ถูกคนร้ายลักองค์พระไปทั้งองค์เหลือไว้แต่เพียงฐานซุกชี ที่คนร้ายไม่ได้นำติดไปด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าที่บริเวณประตูหน้าโบสถ์ที่รูกุญแจประตู มีร่องรอยถูกไขด้วยกุญแจเข้าไปและยังมีหน้าต่างในโบสถ์ถูกเปิดทิ้งไว้อีกหนึ่งบาน
สอบปากคำ พระมหาสุนทร ฉันทโชโต อายุ 67 ปี ผู้ดูโบสถ์ ให้การว่า พระพุทธรูปองค์หลวงปู่นิลนั้น เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 36 นิ้ว สูงประมาณเมตรเศษๆ น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านเขตอำเภอปากเกร็ดมานานหลายชั่วอายุคน โดยก่อนเกิดเหตุหน้านี้ประมาณสองวันที่แล้ว ขณะที่ตนกำลังกวาดลานจอดรถในวัด สังเกตเห็นชายสองอายุประมาณ 30 ต้นๆ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าโบสถ์ จากนั้นทั้งสองคนก็ลงจากรถและยืนพุดคุยกัน ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะชี้มือเข้าไปในโบสถ์ เหมือนกับชี้เป้าหมายอะไรบางอย่าง ด้วยความเป็นห่วง ตนเองจึงได้เรียกเด็กวัดมาเฝ้าดูท่าทีชายทั้งสองคน จนชายทั้งสองคนกลับออกไปจากวัด จนกระทั่งต่อมาในช่วงเช้ามืดตนได้ลงมาทำความสะอาดและเปิดโบสถ์ตามปกติ ก็พบว่าพระพุทธรูปหลวงปู่นิล ได้ถูกคนร้ายไขประตูเข้ามาโจรกรรมองค์พระไปแล้ว
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ทางวัดได้ติดตั้งไว้ในโบสถ์ พบว่า คนร้ายเป็นชายสองคนไขประตูเข้ามาก่อเหตุลักองค์พระในช่วงเวลาประมาณตีสี่ โดยคนร้ายได้เลื่อนกระถางธูปออกก่อน จากนั้นจึงผลักองค์ให้หงายหลังลงโดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่งช่วยประคองหลัง จากนั้นทั้งสองคนจึงช่วยกันอุ้มองค์พระออกทางประตูหน้าที่ไขเข้ามา ก่อนนำขึ้นรถกระบะที่จอดรอออกไป ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพสเก็ตของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว และคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือตามใบสั่งของเซียนพระหรือนักสะสมของเก่า
ทางด้าน นางนิภาดา แสงคล้าย อายุ 56 ปี ชาวบ้านแถววัด กล่าวว่า ขอสาปแช่งให้คนร้ายที่ลักขโมยองค์พระไป ประสบภัยวิบัติจนถึงแก่ชีวิต หากไม่นำพระมาคืนให้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้จากเบาะแสที่มีอยู่ ไม่อยากให้เป็นเหมือนเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่มีกลุ่มคนร้ายเข้ามาลักตัดเศียรพระพุทธรูปเก่าแก่ในโบสถ์เก่าของวัดไปถึง 7-8 เศียร โดยที่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง
วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุจาก พระอธิการสมนึก สิทธิมโน เจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ด หมู่ 1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า พระพุทธรูปหลวงปู่นิล เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ สมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือของชาวบ้านได้ถูกกลุ่มคนร้ายเข้ามาทำการโจรกรรมลักองค์พระพุทธรูปดังกล่าวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ต.วิชิต จันทร์เอี่ยม สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณโบสถ์หลังใหม่ภายในวัด พบกลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมายืนมุงที่หน้าโบสถ์จำนวนมาก พร้อมกับสาปแช่งให้กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุให้มีอันเป็นไปต่างๆ นานา
ทั้งนี้ ที่บริเวณกลางโบสถ์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดต่างๆ พบว่า ที่บริเวณโต๊ะบูชาขององค์หลวงพ่อนิล ได้ถูกคนร้ายลักองค์พระไปทั้งองค์เหลือไว้แต่เพียงฐานซุกชี ที่คนร้ายไม่ได้นำติดไปด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าที่บริเวณประตูหน้าโบสถ์ที่รูกุญแจประตู มีร่องรอยถูกไขด้วยกุญแจเข้าไปและยังมีหน้าต่างในโบสถ์ถูกเปิดทิ้งไว้อีกหนึ่งบาน
สอบปากคำ พระมหาสุนทร ฉันทโชโต อายุ 67 ปี ผู้ดูโบสถ์ ให้การว่า พระพุทธรูปองค์หลวงปู่นิลนั้น เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 36 นิ้ว สูงประมาณเมตรเศษๆ น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านเขตอำเภอปากเกร็ดมานานหลายชั่วอายุคน โดยก่อนเกิดเหตุหน้านี้ประมาณสองวันที่แล้ว ขณะที่ตนกำลังกวาดลานจอดรถในวัด สังเกตเห็นชายสองอายุประมาณ 30 ต้นๆ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าโบสถ์ จากนั้นทั้งสองคนก็ลงจากรถและยืนพุดคุยกัน ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะชี้มือเข้าไปในโบสถ์ เหมือนกับชี้เป้าหมายอะไรบางอย่าง ด้วยความเป็นห่วง ตนเองจึงได้เรียกเด็กวัดมาเฝ้าดูท่าทีชายทั้งสองคน จนชายทั้งสองคนกลับออกไปจากวัด จนกระทั่งต่อมาในช่วงเช้ามืดตนได้ลงมาทำความสะอาดและเปิดโบสถ์ตามปกติ ก็พบว่าพระพุทธรูปหลวงปู่นิล ได้ถูกคนร้ายไขประตูเข้ามาโจรกรรมองค์พระไปแล้ว
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ทางวัดได้ติดตั้งไว้ในโบสถ์ พบว่า คนร้ายเป็นชายสองคนไขประตูเข้ามาก่อเหตุลักองค์พระในช่วงเวลาประมาณตีสี่ โดยคนร้ายได้เลื่อนกระถางธูปออกก่อน จากนั้นจึงผลักองค์ให้หงายหลังลงโดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่งช่วยประคองหลัง จากนั้นทั้งสองคนจึงช่วยกันอุ้มองค์พระออกทางประตูหน้าที่ไขเข้ามา ก่อนนำขึ้นรถกระบะที่จอดรอออกไป ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพสเก็ตของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว และคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือตามใบสั่งของเซียนพระหรือนักสะสมของเก่า
ทางด้าน นางนิภาดา แสงคล้าย อายุ 56 ปี ชาวบ้านแถววัด กล่าวว่า ขอสาปแช่งให้คนร้ายที่ลักขโมยองค์พระไป ประสบภัยวิบัติจนถึงแก่ชีวิต หากไม่นำพระมาคืนให้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้จากเบาะแสที่มีอยู่ ไม่อยากให้เป็นเหมือนเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่มีกลุ่มคนร้ายเข้ามาลักตัดเศียรพระพุทธรูปเก่าแก่ในโบสถ์เก่าของวัดไปถึง 7-8 เศียร โดยที่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง