เหลือเวลาอีกเพียง 7 วัน ในชีวิตรับราชการตำรวจของพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาราชการแทนผบ.ตร. ที่ว่ากันว่า ตำแหน่งรักษาราชกำารแทน(รรท.) เป็นตำแหน่งอันสูงสุดในชีวิตรับราชการตำรวจของพล.ต.อ.ธานีแล้ว แต่ดูเหมือนว่า การได้รับการแต่งตั้งจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ให้พล.ต.อ.ธานี มารักษาราชการแทนผบ.ตร.ขัดตาทัพ ระหว่างการแต่งตั้งผู้ขึ้นดำรงตำแหน่งผบ.ตร. มีอุปสรรคและปัญหานั้น เหมือนทำให้บทบาทของพล.ต.อ.ธานี ที่เคยได้รับสมญานามจากสื่อว่าเป็น"นายพลไม้บรรทัด"นั้น จะลดความขลังลงเล็กน้อย
ระหว่างที่พล.ต.อ.ธานี ดำรงตำแหน่งเป็นรองผบ.ตร.นั้น ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการคลี่คลายคดีสำคัญจากนายกรัฐมนตรี คือ คดีลอบสังหาร"นายสนธิ ลิ้มทองกุล" และตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธานี ได้ให้"คำมั่นสัญญา"อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะหลายครั้งหลายคราวว่า คดีลอบสังหารนายสนธิ จะเสร็จทันก่อนการเกษียณอายุราชการของตนเองแน่นอน แม้ในระหว่างการดำเนินการคลี่คลายคดีนั้น พล.ต.อ.ธานี ต้องพบกับอุปสรรคนานัปประการ แต่ก็ยังคืยยืนยันในคำพูดเดิมเสมอมา
บัดนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 7 วันเท่านั้นที่พล.ต.อ.ธานี จะต้องเปิดหมวกอำลาชีวิตราชการไป แต่ในฐานะของรักษาราชการแทนผบ.ตร.นั้น ดูประหนึ่งว่า พล.ต.อ.ธานี กลับไปสนใจเเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเสียมากกว่า จนหลายฝ่ายรู้สึกเป็นห่วง แม้แต่ในก.ตร.เอง ก็ยังทักท้วงจนมีข่าวว่า เกิดการถกเถียงกันวุ่นวาย กระทั่งล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านความั่นคง ต้องออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า "เคยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามรักษาราชการแทนผบ.ตร. แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจก่อนเกษียณ แต่ควรให้ผบ.ตร.คนใหม่เข้าไปดำเนินการแทน"
ย้อนกลับไปดูคดีการลอบสังหารนายสนธิ หลังจากที่ชุดคลี่คลายคดีที่มีพล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับผู้ต้องหาไปถึง 3 คน แต่ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีการควบคุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี หรือสอบปากคำเพิ่มเติมอะไรได้ มีเพียงแต่กระแสข่าวระบุออกมาว่า ผู้ต้องหายังคงกบดานอยู่ในประเทศไทย แต่ ณ เวลา กลับมีข่าวออกมาจากปากต่อปากอีกว่า 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปนั้น อาจจะเหลืออยู่เพียง 2 คนเท่านั้น โดยคนหนึ่งที่หายไป ยังไม่มีการยืนยันว่า หลบหนีออกไปนอกประเทศ หรือสาปสูญถึงแก่ชีวิตไปแล้ว!
ในขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมาอีกว่า ในสัปดาห์สุดท้ายของการเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ อาจจะออกหมายจับผู้ต้องหา"ล็อตใหญ่"เพิ่มเติม เป็นการทิ้งทวนก่อนเปิดหมวกอำลาออกไป แต่นั่นก็เป็นเพียงกระแสข่าว และหากมีหมายจับ"ล็อตใหญ่"ออกมาจริง จะถือเป็นการปิดคดีได้ก่อนการเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.ธานีได้หรือไม่ และหมายจับ"ล็อตใหญ่"ที่ว่า จะถือว่า เป็น"ระเบิดเวลา"ที่ถูกทิ้งไว้ให้กับผบ.ตร. คนใหม่ หรือหัวหน้าพนักงานสอบสวนคนใหม่ได้ถอดรหัสกันเอาเองหรือไม่นั้น อีกไม่เกิน 7 วันจะทราบผล
ระหว่างที่พล.ต.อ.ธานี ดำรงตำแหน่งเป็นรองผบ.ตร.นั้น ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการคลี่คลายคดีสำคัญจากนายกรัฐมนตรี คือ คดีลอบสังหาร"นายสนธิ ลิ้มทองกุล" และตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธานี ได้ให้"คำมั่นสัญญา"อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะหลายครั้งหลายคราวว่า คดีลอบสังหารนายสนธิ จะเสร็จทันก่อนการเกษียณอายุราชการของตนเองแน่นอน แม้ในระหว่างการดำเนินการคลี่คลายคดีนั้น พล.ต.อ.ธานี ต้องพบกับอุปสรรคนานัปประการ แต่ก็ยังคืยยืนยันในคำพูดเดิมเสมอมา
บัดนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 7 วันเท่านั้นที่พล.ต.อ.ธานี จะต้องเปิดหมวกอำลาชีวิตราชการไป แต่ในฐานะของรักษาราชการแทนผบ.ตร.นั้น ดูประหนึ่งว่า พล.ต.อ.ธานี กลับไปสนใจเเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเสียมากกว่า จนหลายฝ่ายรู้สึกเป็นห่วง แม้แต่ในก.ตร.เอง ก็ยังทักท้วงจนมีข่าวว่า เกิดการถกเถียงกันวุ่นวาย กระทั่งล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านความั่นคง ต้องออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า "เคยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามรักษาราชการแทนผบ.ตร. แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจก่อนเกษียณ แต่ควรให้ผบ.ตร.คนใหม่เข้าไปดำเนินการแทน"
ย้อนกลับไปดูคดีการลอบสังหารนายสนธิ หลังจากที่ชุดคลี่คลายคดีที่มีพล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับผู้ต้องหาไปถึง 3 คน แต่ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีการควบคุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี หรือสอบปากคำเพิ่มเติมอะไรได้ มีเพียงแต่กระแสข่าวระบุออกมาว่า ผู้ต้องหายังคงกบดานอยู่ในประเทศไทย แต่ ณ เวลา กลับมีข่าวออกมาจากปากต่อปากอีกว่า 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปนั้น อาจจะเหลืออยู่เพียง 2 คนเท่านั้น โดยคนหนึ่งที่หายไป ยังไม่มีการยืนยันว่า หลบหนีออกไปนอกประเทศ หรือสาปสูญถึงแก่ชีวิตไปแล้ว!
ในขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมาอีกว่า ในสัปดาห์สุดท้ายของการเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ อาจจะออกหมายจับผู้ต้องหา"ล็อตใหญ่"เพิ่มเติม เป็นการทิ้งทวนก่อนเปิดหมวกอำลาออกไป แต่นั่นก็เป็นเพียงกระแสข่าว และหากมีหมายจับ"ล็อตใหญ่"ออกมาจริง จะถือเป็นการปิดคดีได้ก่อนการเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.ธานีได้หรือไม่ และหมายจับ"ล็อตใหญ่"ที่ว่า จะถือว่า เป็น"ระเบิดเวลา"ที่ถูกทิ้งไว้ให้กับผบ.ตร. คนใหม่ หรือหัวหน้าพนักงานสอบสวนคนใหม่ได้ถอดรหัสกันเอาเองหรือไม่นั้น อีกไม่เกิน 7 วันจะทราบผล
