xs
xsm
sm
md
lg

ภาค 1 เปิดโฉมหน้าโจร 3 คดีดัง “ฉกเพชร-ทุบรถ-ปลอมบัตร”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาค 1 โชว์จับผู้ต้องหา 3 คดีรวด โดยจับโจรทุบรถนักข่าวช่อง 3 ขณะไปดูคอนเสิร์ตอิมแพคเมืองทองธานี ลักบัตรเครดิตรูดปรื้ดเกินวงเงินกว่า 2 แสน จนแบงก์เจ้าของบัตรสงสัยโทร.แจ้งเจ้าของ ความแตกตามจับได้ สารภาพติดพนันบ่อนเพื่อนบ้าน ก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เพื่อนำเงินถลุงลงบ่อน อีกรายรวบแก๊งเม็กซิโกฉกเพชรงานบางกอกเจมส์ 65 ล้าน และจับแก๊งใช้บัตรเครดิต-หนังสือเดินทางปลอมตระเวนซื้อของตามห้างดัง

วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ราเชนทร์ รื่นกมล รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายดุษฎี หรือ จิน กุลสวัสดิ์ภักดี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 612 ซอยพานิชอนันต์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 488/2552 ลงวันที่ 3 ก.ย.2552 ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือรับของโจร, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าแทนการชำระด้วยเงินสด โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ตลาดนัมเบอร์วัน แขวงอุดมสุข เขตบางนา กทม.

พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายจำนวน 2 ราย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ว่า ขณะที่นำรถยนต์ไปจอดภายในลานจอดรถของศูนย์จัดแสดงสินค้าอิมแพคเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนทุบกระจกรถ และขโมยเอาทรัพย์สินไป โดยคนร้ายได้นำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าจนผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงสืบหาเบาะแสของคนร้ายจนทราบว่า นายดุษฏี เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุ และหลบหนีไปเช่าห้องพักอยู่ที่ย่านบางนา จึงนำกำลังไปจับกุมตัว โดยจับกุมได้พร้อมของกลางเอกสารการใช้บัตรเครดิตจำนวนหลายรายการ นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังมีหมายจับอีกหลายท้องที่เกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหาก่อเหตุที่เมืองทองธานี 3 ครั้ง สโมสรตำรวจ 2 ครั้ง กองทัพเรือ 1 ครั้ง และยังมีสถานที่อื่นๆ อีกซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องหา

จากการสอบสวน นายดุษฎี ให้การรับสารภาพว่า ตนกับภรรยาเปิดร้านขายเครื่องสำอางอยู่ที่ ย่านลาดกระบัง สาเหตุที่ทำลงไปก็เพราะติดการพนัน ต้องการนำเงินไปเล่นการพนันที่ปอยเปต โดยที่ภรรยาและทางบ้านไม่ทราบเรื่องมาก่อน ทุกครั้งจะตระเวนก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยเลือกสถานที่ที่มีการจัดงานเลี้ยงต่างๆ หรืองานคอนเสิร์ต เนื่องจากเหยื่อจะจอดรถไว้เป็นเวลานาน จากนั้นก็จะส่องเข้าไปในรถว่ามีกระเป๋าหรือทรัพย์สินวางอยู่หรือไม่ ก่อนจะใช้ไขควงงัดกระจกจนแตกทั้งบาน

“จากนั้นผมก็จะหยิบกระเป๋า ออกมาแล้วเอาทรัพย์สินไป ถ้าเป็นกล้องถ่ายรูปโน้ตบุ๊กก็จะนำไปขาย ส่วนบัตรเครดิตจะนำไปรูดซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางและจิวเวลรี่ เพราะจะมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่ตนเดินทางไปเล่นการพนันสั่งซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ ซึ่งตนจะนำไปขายโดยได้ส่วนแบ่ง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเพชรและอัญมณีต่างๆ ก็นำไปขายตามร้านทองและฝั่งประเทศเพื่อนบ้านด้วย ผมไม่ได้เอาเครื่องสำอางที่ซื้อมาไปขายต่อที่ร้านเลย เนื่องจากกลัวว่าภรรยาจะรู้ นอกจากนี้ผมไม่รู้ว่ารถที่ทุบที่เมืองทองเป็นของน.ส.อังคณา วัฒนมงคล โปรดิวเซอร์ รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 เพิ่งรู้ตอนที่ดูข่าวและพอรู้ว่ากำลังถูกตำรวจตามจับก็รีบหลบหนีทันที” นายดุษฎี กล่าว

จากการสอบถาม นางวรนุช บุญสกุลโสภิต อายุ 42 ปี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ตนพร้อมกับครอบครัวได้เดินทางไปดูคอนเสิรต์ที่อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี โดยจอดรถไว้ที่ลานจอดซึ่งมีไฟสว่างและมี รปภ.ระหว่างที่กำลังดูคอนเสิรต์ก็มีเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์โทรศัพท์มาบอกว่ามีการนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าจำนวนมากจนเกินวงเงิน ตนจึงเอะใจและรีบไปที่รถ เมื่อไปถึงก็พบว่ารถโดนทุบและกระเป๋าสะพายที่มีทรัพย์สินอยู่ภายในได้หายไป โดยคนร้ายได้นำบัตรเครดิตของตนไปรูดซื้อสินค้า รวมมูลค่ากว่า 143,822 บาท ตนจึงรีบอายัดบัตรและแจ้งความเอาไว้

ด้าน นางสาววันวิสา ทองอ่อน อายุ 35 ปี พนักงานบริษัทคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2552 ตนได้เดินทางไปงานแต่งงานที่สโมสรตำรวจและจอดรถไว้ที่ลานจอด ซึ่งรถของตนก็ติดฟิล์มทึบ ระหว่างที่จะลงจากรถตนได้เปลี่ยนกระเป๋า โดยนำทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดไว้ในกระเป๋าอีกใบ และวางไว้ที่ด้านข้างคนขับโดยไม่คิดว่ารถจะถูกทุบ แต่เมื่อกลับมาที่รถก็พบว่าคนร้ายได้ทุบกระจกซ้ายหลังและขโมยกระเป๋าไป โดยคนร้ายได้นำบัตรเครดิตของตนไปรูดซื้อเครื่องสำอางและจิวเวลรี่ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท ตนรู้สึกดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้เพราะจะได้ไม่ไปก่อเหตุที่อื่นอีก

อีกราย พล.ต.ท.ฉลอง แถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายราอูล อามันโด คาร์เรนซ่า วาเลนติน อายุ 32 ปี สัญชาติเปรู นายออสก้า อเล็คซิส มาร์ติเนส อกัวรี่ อายุ 39 ปี สัญชาติเม็กซิโก และนายไจเม่ บาลเลสเทโรส คาสทานเนด้า อายุ 53 ปี สัญชาติเม็กซิโก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 528,529,530/2552 ลงวันที่ 21 ก.ย.52 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยจับกุมได้ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น.ได้มีคนร้ายลักษณะคล้ายคนแขกขาว เข้าไปโจรกรรมเครื่องเพชรและอัญมณี ภายในงานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ ครั้งที่ 44 ได้ทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 65 ล้านบาท เหตุเกิดภายในอาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมีด้วยกันทั้งหมด 5 คน เป็นชาวเม็กซิโก และมีการทำกันเป็นขบวนการโดยจะวางแผนจากต่างประเทศ ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย

พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาได้ไปเช่ารถยนต์จากพัทยาเพื่อใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับไปที่พัทยาเช่นเดิม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมได้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนได้เอาทรัพย์สินหลบหนีไป จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่จากแนวทางการสืบสวนและพยานหลักฐานทั้งหมดชี้ชัดได้ว่าผู้ต้องหากับพวกที่ยังหลบหนีอีก 2 ราย เป็นคนก่อเหตุจริง ส่วนของกลางคาดว่าน่าจะยังอยู่ในประเทศไทย

“จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่า เคยก่อคดีวิ่งราวทรัพย์ในท้องที่ สน.ปทุมวัน และนายออสก้า อเล็คซิส มาร์ติเนส อกัวรี่ ก็มีหน้าตาคล้ายกับภาพถ่ายจากกล้องวงของเมืองทองธานี ในช่วงที่เกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์ในงานบางกอกเจมส์แอนด์จิเวลรี่แฟร์ เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ยังหลบหนีพร้อมของกลางมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว” พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว

รายสุดท้าย แถลงข่าวผลการจับกุม นายอุย คิม ชิว นายเชน เวย ฮาว อายุ 28 ปี และ นายไล ชิง ติง อายุ 43 ปี ทั้งหมดถือสัญชาติมาเลเซีย พร้อมขอกลางบัตรเครดิตปลอม จำนวน 10 ใบ และหนังสือเดินทางปลอม 2 เล่มโดยพล.ต.ท.ฉลอง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย และเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ว่าชายชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน มีพฤติกรรมใช้บัตรเครดิตปลอมซื้อสินค้าที่ร้านขายกล้อง ภายในห้องพันธุ์ทิพย์พล่าซ่า สาขานนทบุรี ซึ่งทางเจ้าของร้านพบพิรุธจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารมาตรวจสอบบัตรเครดิตดังกล่าว ก็พบว่า เป็นของปลอม จากนั้นจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

“เมื่อตำรวจมาถึงที่ร้านก็พบ นายเชน เวย ฮาว และ นายไล ชิง ติง อยู่ภายในร้าน ส่วน นายอุย คิม ชิง ยืนคุมเชิงอยู่หน้าร้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมของกลางดังกล่าว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีไว้เพื่อนำออกใช้ ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น โดยน่าจะเกิดความเสียหายกับผู้อื่นหรือประชาชน ทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอม หรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ทำหนังสือเดินทางปลอม มีไว้ใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม และทำปลอมขึ้น ซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตรา อันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ก่อนส่งตัวผู้ต้องทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว


พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาฉกเพชร มูลค่า 65 ล้าน ผู้ต้องหาปลอมบัตรเครดิตและผู้ต้องหาทุบรถ
ผู้ต้องหาชาวเม็กซิโกที่ก่อเหตุฉกเพชรที่เมืองทอง
ผู้ต้องหาปลอมบัตรเครดิตและทุบรถ (ผู้ต้องหาทุบรถเสื้อเชิ๊ตแขนยาวมีลายก้มหน้าขวามือ)
กำลังโหลดความคิดเห็น