นครบาลแถลงโชว์จับแก๊งค้ายารายใหญ่จากนักโทษเรือนจำ ขณะรับยาอีจากกลุ่มต่างชาติย่านรามคำแหง แล้วนำของกลางกว่าหมื่นเม็ดเก็บซ่อนในแมนชั่น เพื่อแบ่งบรรจุส่งผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อผ่านหัวหน้าใหญ่ในเรือนจำ และเจาะกลุ่มนักเสพเที่ยวกลางคืนย่านรัชดาฯ รับสารภาพเคยสั่งยากับเอเยนต์ “เฮียหมัด” ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ด้วย อ้างค้ายาเพื่อปลดหนี้นอกระบบ
วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบก.สปพ. พ.ต.ท.ประสงค์ อานมณี รอง ผกก.(จร) สน.พระราชวัง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญ ที่ขายให้นักท่องราตรีตามสถานบันเทิงย่านรัชดา สุขุมวิท ประกอบด้วย นายวีรวุฒิ จิรรุ้งแสงสถิต อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/43-44 ซ.รองเมือง 5 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.นายภาคย์ หมูคุ้ย อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ถ.ริมคลองบางซื่อ 1 แขวง-เขตดินแดง กทม.และ นายบัณฑิต อนันตวัฒน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337/56 ม.4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม.พร้อมของกลางยาอีชนิดเม็ดกลมแบนสีเขียว แดง และเหลืองจำนวน 11,390 เม็ด
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสืบสวนลักลอบค้ายาเสพติดรายสำคัญในกรุงเทพฯ จนทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้จำหน่ายยาอีรายนี้ โดยพบว่า ผู้ค้ารายใหญ่เป็นนักโทษในเรือนจำ และใช้ลูกน้องที่อยู่ภายนอกให้ไปรับยาเสพติดชาวต่างชาติที่นำยาเข้ามาในประเทศ แล้วไปแบ่งจำหน่ายให้ผู้ค้ารายย่อยนำไปขายนักท่องราตรีตามแหล่งสถานบันเทิงต่างๆ เช่น ย่านรัชดา สุขุมวิท
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า หลังทราบแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดก็นำกำลังไปปฏิบัติภารกิจพบนายบัณฑิต หนึ่งในเครือข่ายค้ายารายนี้เดินทางออกไปบริเวณย่านรามคำแหง เพื่อรับยาอี จากกลุ่มชาวต่างชาติ จากนั้นได้นำยามาเก็บไว้ที่ห้อง 814 ธนทรัพย์แมนชั่น แขวงและเขตสะพานสูง กทม.เพื่อแบ่งบรรจุส่งให้ผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อผ่านหัวหน้าใหญ่ในเรือนจำ แล้วนำไปส่งมอบให้ลูกค้า โดยตำรวจสามารถจับกุมขณะส่งมอบยาอีได้ผู้ต้องหาทั้ง 3 พร้อมของกลางดังกล่าว
ด้าน นายบัณฑิต กล่าวว่า ที่มาค้ายาเนื่องจากต้องการปลดหนี้ เดิมมีอาชีพขับรถให้ผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ต่อมาประสบอุบัติเหตุไม่สามารถทำงานได้ จึงต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 6 หมื่นบาท เมื่อไม่สามารถใช้หนี้ได้ก็ถูกบังคับจากคนที่รู้จักให้ทำหน้าที่ส่งยา ทำมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่นบาท โดยตนจะได้รับโทรศัพท์สั่งการมาจากหัวหน้าในเรือนจำ ซึ่งไม่ทราบชื่อให้ไปนำยาจากชาวต่างชาติตามร้านสะดวกซื้อ แล้วจะนัดส่งให้ลูกค้าตามโรงแรมต่างๆ
นายวีรวุฒิ กล่าวว่า นอกจากจะส่งยาให้กับเครือข่ายรายนี้ ยังเคยสั่งยาจากนายเกียรติศักดิ์ พันศรี หรือ เฮียหมัด เอเยนต์ค้ายารายใหญ่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพิ่งจับกุมไปได้ไม่นานนี้ด้วย
วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบก.สปพ. พ.ต.ท.ประสงค์ อานมณี รอง ผกก.(จร) สน.พระราชวัง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญ ที่ขายให้นักท่องราตรีตามสถานบันเทิงย่านรัชดา สุขุมวิท ประกอบด้วย นายวีรวุฒิ จิรรุ้งแสงสถิต อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/43-44 ซ.รองเมือง 5 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.นายภาคย์ หมูคุ้ย อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ถ.ริมคลองบางซื่อ 1 แขวง-เขตดินแดง กทม.และ นายบัณฑิต อนันตวัฒน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337/56 ม.4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม.พร้อมของกลางยาอีชนิดเม็ดกลมแบนสีเขียว แดง และเหลืองจำนวน 11,390 เม็ด
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสืบสวนลักลอบค้ายาเสพติดรายสำคัญในกรุงเทพฯ จนทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้จำหน่ายยาอีรายนี้ โดยพบว่า ผู้ค้ารายใหญ่เป็นนักโทษในเรือนจำ และใช้ลูกน้องที่อยู่ภายนอกให้ไปรับยาเสพติดชาวต่างชาติที่นำยาเข้ามาในประเทศ แล้วไปแบ่งจำหน่ายให้ผู้ค้ารายย่อยนำไปขายนักท่องราตรีตามแหล่งสถานบันเทิงต่างๆ เช่น ย่านรัชดา สุขุมวิท
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวว่า หลังทราบแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดก็นำกำลังไปปฏิบัติภารกิจพบนายบัณฑิต หนึ่งในเครือข่ายค้ายารายนี้เดินทางออกไปบริเวณย่านรามคำแหง เพื่อรับยาอี จากกลุ่มชาวต่างชาติ จากนั้นได้นำยามาเก็บไว้ที่ห้อง 814 ธนทรัพย์แมนชั่น แขวงและเขตสะพานสูง กทม.เพื่อแบ่งบรรจุส่งให้ผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อผ่านหัวหน้าใหญ่ในเรือนจำ แล้วนำไปส่งมอบให้ลูกค้า โดยตำรวจสามารถจับกุมขณะส่งมอบยาอีได้ผู้ต้องหาทั้ง 3 พร้อมของกลางดังกล่าว
ด้าน นายบัณฑิต กล่าวว่า ที่มาค้ายาเนื่องจากต้องการปลดหนี้ เดิมมีอาชีพขับรถให้ผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ต่อมาประสบอุบัติเหตุไม่สามารถทำงานได้ จึงต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 6 หมื่นบาท เมื่อไม่สามารถใช้หนี้ได้ก็ถูกบังคับจากคนที่รู้จักให้ทำหน้าที่ส่งยา ทำมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่นบาท โดยตนจะได้รับโทรศัพท์สั่งการมาจากหัวหน้าในเรือนจำ ซึ่งไม่ทราบชื่อให้ไปนำยาจากชาวต่างชาติตามร้านสะดวกซื้อ แล้วจะนัดส่งให้ลูกค้าตามโรงแรมต่างๆ
นายวีรวุฒิ กล่าวว่า นอกจากจะส่งยาให้กับเครือข่ายรายนี้ ยังเคยสั่งยาจากนายเกียรติศักดิ์ พันศรี หรือ เฮียหมัด เอเยนต์ค้ายารายใหญ่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพิ่งจับกุมไปได้ไม่นานนี้ด้วย