ตำรวจประเวศเผยกล้องวงจรปิดในห้างซีคอนสแควร์จับภาพแขกขาว 3 คนร้าย ปฏิบัติการฉกกระเป๋าใส่ทอง 55 บาท จากเสี่ยร้านเครื่องเย็น ขณะที่เจ้าของร้านทองลี้จินไถ่ชี้แก๊งแขกขาวอาละวาดฉกทองตามร้านทองหนักขึ้น ระบุเคยเจอแก๊งนี้เป็นผู้หญิงแขกขาว เล่นกลลักทองมาแล้ว รู้ตัวว่าทองหายหลังดูกล้องวงจรปิดในร้าน
จากกรณีนายสมชาย นันทนาชัย อายุ 68 ปี เสี่ยเจ้าของร้าน “นิววิศว เครื่องเย็น” เข้าไปซื้อทองคำแท่งหนัก 55 บาท จากร้านทองฮั้วเซ่งเฮง ในห้างซีคอนสแควร์ แต่ระหว่างเดินออกจากร้านทอง เจ้าตัวก็ถูกคนร้ายแก๊งแขกขาว 3-4 คนสะกดรอยตาม ก่อนเข้ามาประกบแล้วใช้ลิปสติกแบบน้ำสีแดงบีบใส่จนเสื้อเลอะ นายสมชายจึงรีบกลับไปที่รถแล้วหาทิชชูเช็ดออก โดยที่วางประเป๋าใส่ทองไว้ที่เบาะอย่างไม่ได้ระวังตัว ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้าไปฉกกระเป๋าใส่ทองหลบหนีไปนั้น
วันนี้ (10 ก.ย.) พ.ต.ต.วิชาญ สุทธิประภา สว.สส.สน.ประเวศ เปิดเผยความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้ายคดีนี้ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้างซีคอนสแควร์ พบคนร้ายมีด้วยกัน 3 คน คนแรกเป็นชายคล้ายชาวยุโรป ผมบาง สวมเสื้อสีฟ้า นุ่งกางเกง 3 ส่วน สะพายกระเป๋า สวมรองเท้ากีฬา คนที่สองเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ส่วนคนร้ายอีกคนเป็นชายวัยกลางคน สวมเสื้อสีชมพู ซึ่งแต่ละคนแบ่งหน้าที่กัน คอยหลอกล่อ เบี่ยงเบนความสนใจของเหยื่อด้วยการโยนเหรียญลงพื้น แล้วลงมือฉกกระเป๋าใส่ทองไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำภาพไปตรวจสอบพร้อมขออนุมัติหมายจับต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายไพบูลย์ ลีลานุรักษ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/154 ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เจ้าของร้านทองลี้จินไถ่ ว่าถูกแก๊งแขกขาวที่เป็นผู้หญิงทำทีเข้ามาซื้อทองแล้วชิงทรัพย์ไปเช่นกัน โดยเมื่อเวลา 14.20 วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา มีหญิงชาวต่างชาติ 2 คน คล้ายแขก อายุประมาณ 25-30 ปี คนหนึ่งสวมผ้าคลุมหัว อีกคนผมสีทองทำทีมาซื้อต่างหูทองราคา 800 บาท ก่อนจะจ่ายเงินมาให้เรียบร้อยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้นผู้หญิงแขกทั้งสองคนก็บอกตนว่าสนใจจะซื้อสร้อยทองหนัก 5 บาท แต่ช่วงนั้นตนปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงให้นางนิตยา ลีลานุรักษ์ อายุ 57 ปี ภรรยามาขายแทน โดยคนร้ายขอดูสร้อยทองทั้งถาด ซึ่งมีทองประมาณ 10 เส้น แล้วทำทีหยิบขยุ้มรวมกันเป็นก้อนๆ จนไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหน เมื่อคนร้ายตกลงว่าจะซื้อ 3 เส้น ภรรยาตนเลยบอกให้ไปแลกเงินดอลลาร์มาเป็นเงินไทยที่ธนาคารไทยพานิชย์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันแต่ปรากฏว่าหญิงแขกทั้ง 2 คนก็หายไปเลย
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบสร้อยทองในถาด ก็พบว่าหายไป 4 เส้น โดยเป็นเส้นที่หนัก 5 บาททั้งหมด รวมทั้งสิ้น 20 บาท มูลค่าประมาณ 330,000 บาท จึงรีบมาตรวจกล้องวงจรปิดดูแบบช้าๆ จึงรู้ว่าคนร้ายใช้วิธีขยุ้มสร้อยทองให้เล็กที่สุดแล้วโยนใส่เสื้อ เหมือนกับเล่นกล เนื่องจากหากดูด้วยตาเปล่าจะจับไม่ทันเพราะไวมาก
นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า ตนได้ตั้งกระทู้โพสต์ในอินเทอร์เน็ต มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่า ตามปกติคนร้ายจะมุ่งไปที่ร้านจิวเวลรี แต่ระยะหลังร้านจิวเวลรี่จะระวังตัวมากไม่ขายให้แขกขาวแล้ว คนร้ายจึงเปลี่ยนแนวไปตามร้านทองบนท้องถนน ตามหัวเมืองท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา และก่อเหตุถี่ขึ้นจึงแจ้งให้ระวังไว้
ล่าแก๊งฝรั่ง! ฉกทองหนัก 55 บาทของ “เสี่ยเครื่องเย็น” ในห้างดัง
จากกรณีนายสมชาย นันทนาชัย อายุ 68 ปี เสี่ยเจ้าของร้าน “นิววิศว เครื่องเย็น” เข้าไปซื้อทองคำแท่งหนัก 55 บาท จากร้านทองฮั้วเซ่งเฮง ในห้างซีคอนสแควร์ แต่ระหว่างเดินออกจากร้านทอง เจ้าตัวก็ถูกคนร้ายแก๊งแขกขาว 3-4 คนสะกดรอยตาม ก่อนเข้ามาประกบแล้วใช้ลิปสติกแบบน้ำสีแดงบีบใส่จนเสื้อเลอะ นายสมชายจึงรีบกลับไปที่รถแล้วหาทิชชูเช็ดออก โดยที่วางประเป๋าใส่ทองไว้ที่เบาะอย่างไม่ได้ระวังตัว ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้าไปฉกกระเป๋าใส่ทองหลบหนีไปนั้น
วันนี้ (10 ก.ย.) พ.ต.ต.วิชาญ สุทธิประภา สว.สส.สน.ประเวศ เปิดเผยความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้ายคดีนี้ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้างซีคอนสแควร์ พบคนร้ายมีด้วยกัน 3 คน คนแรกเป็นชายคล้ายชาวยุโรป ผมบาง สวมเสื้อสีฟ้า นุ่งกางเกง 3 ส่วน สะพายกระเป๋า สวมรองเท้ากีฬา คนที่สองเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ส่วนคนร้ายอีกคนเป็นชายวัยกลางคน สวมเสื้อสีชมพู ซึ่งแต่ละคนแบ่งหน้าที่กัน คอยหลอกล่อ เบี่ยงเบนความสนใจของเหยื่อด้วยการโยนเหรียญลงพื้น แล้วลงมือฉกกระเป๋าใส่ทองไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำภาพไปตรวจสอบพร้อมขออนุมัติหมายจับต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายไพบูลย์ ลีลานุรักษ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/154 ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เจ้าของร้านทองลี้จินไถ่ ว่าถูกแก๊งแขกขาวที่เป็นผู้หญิงทำทีเข้ามาซื้อทองแล้วชิงทรัพย์ไปเช่นกัน โดยเมื่อเวลา 14.20 วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา มีหญิงชาวต่างชาติ 2 คน คล้ายแขก อายุประมาณ 25-30 ปี คนหนึ่งสวมผ้าคลุมหัว อีกคนผมสีทองทำทีมาซื้อต่างหูทองราคา 800 บาท ก่อนจะจ่ายเงินมาให้เรียบร้อยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จากนั้นผู้หญิงแขกทั้งสองคนก็บอกตนว่าสนใจจะซื้อสร้อยทองหนัก 5 บาท แต่ช่วงนั้นตนปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงให้นางนิตยา ลีลานุรักษ์ อายุ 57 ปี ภรรยามาขายแทน โดยคนร้ายขอดูสร้อยทองทั้งถาด ซึ่งมีทองประมาณ 10 เส้น แล้วทำทีหยิบขยุ้มรวมกันเป็นก้อนๆ จนไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหน เมื่อคนร้ายตกลงว่าจะซื้อ 3 เส้น ภรรยาตนเลยบอกให้ไปแลกเงินดอลลาร์มาเป็นเงินไทยที่ธนาคารไทยพานิชย์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันแต่ปรากฏว่าหญิงแขกทั้ง 2 คนก็หายไปเลย
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบสร้อยทองในถาด ก็พบว่าหายไป 4 เส้น โดยเป็นเส้นที่หนัก 5 บาททั้งหมด รวมทั้งสิ้น 20 บาท มูลค่าประมาณ 330,000 บาท จึงรีบมาตรวจกล้องวงจรปิดดูแบบช้าๆ จึงรู้ว่าคนร้ายใช้วิธีขยุ้มสร้อยทองให้เล็กที่สุดแล้วโยนใส่เสื้อ เหมือนกับเล่นกล เนื่องจากหากดูด้วยตาเปล่าจะจับไม่ทันเพราะไวมาก
นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า ตนได้ตั้งกระทู้โพสต์ในอินเทอร์เน็ต มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่า ตามปกติคนร้ายจะมุ่งไปที่ร้านจิวเวลรี แต่ระยะหลังร้านจิวเวลรี่จะระวังตัวมากไม่ขายให้แขกขาวแล้ว คนร้ายจึงเปลี่ยนแนวไปตามร้านทองบนท้องถนน ตามหัวเมืองท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา และก่อเหตุถี่ขึ้นจึงแจ้งให้ระวังไว้
ล่าแก๊งฝรั่ง! ฉกทองหนัก 55 บาทของ “เสี่ยเครื่องเย็น” ในห้างดัง
