ผู้บังคับการตำรวจจราจร มีคำสั่งให้ตำรวจจราจรสังกัดทางด่วน 2 ออกจากราชการไว้ก่อน ฐานเบิกใบสั่งไปให้เพื่อนใช้กันผีเวลาถูกตำรวจจับ เผยไม่ใช่ใบสั่งปลอม แต่นำไปใช้โดยมิชอบ เรื่องแดงเพราะคนขับรถทะเลาะกับเถ้าแก่ เลยนำใบสั่งไปฟ้องสื่อ
วันนี้ (9 ก.ย.) พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ปฏิบัติราชการผู้บังคับการตำรวจจราจร ( ผบก.จร.) เปิดเผยผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนว่า มีการนำใบสั่งของตำรวจจราจรทางด่วน 2 ไปให้บริษัทเอกชนใช้โดยมิชอบตามกฎหมายนั้น ล่าสุดกองบังคับการตำรวจจราจรมีคำสั่งให้ จ.ส.ต.อธิพงศ์ กันดี ผู้บังคับหมู่งานจราจรทางด่วน 2 ที่มีชื่อปรากฏในใบสั่ง ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจาก จ.ส.ต.อธิพงศ์ รับสารภาพว่าเป็นผู้เบิกใบสั่งไปให้เพื่อนที่ทำงานในบริษัทเอกชนจริง
“ใบสั่งดังกล่าวไม่ใช่ใบสั่งปลอม แต่เป็นการออกใบสั่งโดยมิชอบ เนื่องจากว่า จ.ส.ต.อธิพงศ์ เอาใบสั่งไปให้พรรคพวกเพื่อป้องกันตัวเวลาขับรถปิกอัพบรรทุกเกินกำหนด เพื่อจะให้ตำรวจที่ตรวจพบเกิดความสงสารว่า ก่อนหน้านี้ได้ถูกออกใบสั่งมาแล้ว แต่ภายหลังปรากฏว่าคนขับที่พกใบสั่งดังกล่าวทะเลาะกับเถ้าแก่ ตัวคนขับจึงนำใบสั่งไปร้องสถานีโทรทัศน์ จนเป็นข่าวขึ้น ซึ่งผมเซ็นให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว” พล.ต.ต.วิมลกล่าว
ผบก.จร.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาของ จ.ต.อ.อธิพงศ์ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำพนักงานบริษัทที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งคาดว่าในวันนี้จะได้คำตอบที่ชัดเจน
ล่าสุด พล.ต.ต.วิมล ได้สั่งกำชับให้หัวหน้าสถานีทุกพื้นที่ เข้มงวดรัดกุมการเบิกจ่ายสมุดใบสั่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ออกมายอมรับว่า ที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนเรื่องการปลอมใบสั่ง ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบการปลอมทั้งฉบับจากบุคคลภายนอก รวมทั้งใบสั่งจริง แต่มีเจ้าหน้าที่บางคนนำใบสั่งไปจำหน่ายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับห้างร้าน หรือผู้ประกอบการต่างๆ และกรณีใบสั่งจริงที่ตำรวจจราจรเป็นผู้ออก แต่ผู้ได้รับทำหาย และถูกผู้อื่นนำไปแอบอ้าง หรือใช้ ซึ่งประชาชนทั่วไปจะเข้าใจว่าเมื่อได้รับใบสั่งจะออกไม่ถูกออกใบสั่งซ้ำอีก