ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยกคำร้อง กกต.ขอให้เลือกตั้งนายก อบจ.-อบต.ถลาง ภูเก็ต ใหม่ เหตุพยานหลักฐานผู้ร้องยังมีพิรุธ ฟังไม่ได้ว่าให้เงินหัวคะแนนซื้อเสียง
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีเลือกตั้ง กรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติคัดค้านการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.ถลาง เขต 3 เลขวาระ 828/52 สำนวนที่ 5 ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2551 ประกาศผลวันที่ 7 พ.ค.2551ซึ่งผลการเลือกตั้ง นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตประธานหอการค้า จ.ภูเก็ต ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ภูเก็ต และ นายสวัสดิ์ มิจฉาเวช ผู้คัดค้านที่ 2 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต อ.ถลาง เขตเลือกตั้งที่ 3 หลังจากเมื่อวันที่ 19-20 เม.ย.ผู้ร้องได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานที่ได้รับเงินจากหัวคะแนนของฝ่ายผู้คัดค้านจำนวน 4 คนแล้ว เชื่อว่า การกระทำของผู้คัดค้านเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 57 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 โดยผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคัดค้านว่า ไม่ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้ง และไม่เคยมอบเงินให้บุคคลไปซื้อเสียงตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีเลือกตั้ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พยานฝ่ายผู้ร้องเบิกความไม่สอดคล้องต้องกัน มีพิรุธไม่สมเหตุสมผล ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนยังรับฟังไม่ได้ว่า ผู้คัดค้านให้เงินแก่หัวคะแนนเพื่อนำไปมอบให้ประชาชน จนเป็นแรงจูงใจในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.ถลาง เขตเลือกตั้งที่ 3 ใหม่แทนผู้คัดค้าน ให้ยกคำร้อง
วันนี้ (8 ก.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีเลือกตั้ง กรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติคัดค้านการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.ถลาง เขต 3 เลขวาระ 828/52 สำนวนที่ 5 ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2551 ประกาศผลวันที่ 7 พ.ค.2551ซึ่งผลการเลือกตั้ง นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตประธานหอการค้า จ.ภูเก็ต ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ภูเก็ต และ นายสวัสดิ์ มิจฉาเวช ผู้คัดค้านที่ 2 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต อ.ถลาง เขตเลือกตั้งที่ 3 หลังจากเมื่อวันที่ 19-20 เม.ย.ผู้ร้องได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานที่ได้รับเงินจากหัวคะแนนของฝ่ายผู้คัดค้านจำนวน 4 คนแล้ว เชื่อว่า การกระทำของผู้คัดค้านเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 57 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 โดยผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคัดค้านว่า ไม่ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้ง และไม่เคยมอบเงินให้บุคคลไปซื้อเสียงตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 แผนกคดีเลือกตั้ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พยานฝ่ายผู้ร้องเบิกความไม่สอดคล้องต้องกัน มีพิรุธไม่สมเหตุสมผล ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนยังรับฟังไม่ได้ว่า ผู้คัดค้านให้เงินแก่หัวคะแนนเพื่อนำไปมอบให้ประชาชน จนเป็นแรงจูงใจในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.ถลาง เขตเลือกตั้งที่ 3 ใหม่แทนผู้คัดค้าน ให้ยกคำร้อง
