กองปราบจับผู้ต้องหาหลอกนักศึกษา อ้างเป็นญาติทหารระดับสูงใน ก.กลาโหม สามารถช่วยเหลือให้เป็นทหารได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1 แสนบาท ตรวจสอบประวัติพบหมายจับฉ้อโกงทรัพย์อีกหลายคดี แถมยังอ้างตัวเป็นทหารยศพันโท หลอกจัดแคมป์เดินป่า มีเหยื่อถูกตุ๋นอีกหลายราย
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันนี้ 21 ส.ค. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผกก.1 บก.ป. ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย รอง สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม นายจิรภัทร ทรัพย์เย็น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ 1424/2550 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2550 ข้อหาฉ้อโกงและใช้ยศ ตำแหน่งโดยไม่มีสิทธิหรือให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีแดง ทะเบียน กพ 6206 นครราชสีมา ติดสติกเกอร์ตราครุฑ อนุญาตผ่านเข้าออกสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ จับกุมได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2550 นายจิรภัทรได้แอบอ้างกับผู้เสียหายที่สนใจอยากสมัครเข้ารับราชการทหารว่า สามารถช่วยเหลือให้เป็นทหารได้แต่ต้องใช้เงินในการวิ่งเต้นเป็นจำนวน 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังอ้างตัวเป็นนายทหารยศพันโท หลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สนใจจะไปร่วมแคมป์เดินป่า โดยเรียกรับเงินผู้เสียหายหลายราย ซึ่งกลับไม่มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นแต่อย่างใด
นายอนุพงษ์ แก้วสาธร อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195/28 ซอยภูมิจิตร แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 6 ก็มีความสนใจอยากเป็นทหาร กระทั่งเมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นตำรวจได้แนะนำให้รู้จักกับนายจิรภัทร ซึ่งบอกกับตนว่าสามารถช่วยเหลือได้เพราะญาติเป็นนายทหารระดับ สูงในกระทรวงกลาโหม จากนั้นจึงมีการติดต่อกันโดยครั้งแรกนายจิรภัทร เรียกเก็บเงินจากตนเป็นจำนวน 5,000 บาท อ้างว่าเป็นค่านำข้อสอบมาให้ลองทำดูก่อน แต่พอทำข้อสอบแล้วนายจิรภัทร กลับบอกว่าตนทำคะแนนได้ไม่ดีจะต้องไปเรียนกวดวิชาเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกเงินค่าเรียนจากตนอีก 25,000 บาท เมื่อยอมจ่ายเงินไป นายจิรภัทร กลับมาบอกกับตนว่าไม่ต้องไปเรียนแล้ว แต่ให้ไปฝึกงานที่กระทรวงกลาโหมแทน ซึ่งระหว่างที่รอให้ไปฝึกงานก็เรียกเงินอีก 20,000 บาท
นายอนุพงษ์กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อรอจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงเดือนกรกฎาคม ก็ยังไม่ได้ฝึกงานตามที่นายจิรภัทร กล่าวอ้าง ตนจึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวงจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายจิรภัทร จนทราบว่าตำรวจกองปราบปรามจับกุมนายจิรภัทร ไว้ได้แล้วจึงเดินทางมาชี้ตัว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง รับไว้ดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ายังมีหมายจับติดตัวอีก 3 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1076/2549 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2549 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ เหตุเกิดในท้องที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ศาลแขวงพระโขนง ที่ ส 1722/2547 ลงวันที่ 27 มกราคม 2547 ข้อหาฉ้อโกง ท้องที่ สน.พระโขนง และศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ 1979/2549 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 ข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม เหตุเกิดท้องที่ สน.ดินแดง