“พีระพันธุ์” ลั่น ไม่มีการสกัดกั้นฎีกา “แม้ว” ทุกอย่างไปตามหลักการ หากไม่ถูกต้องก็ต้องตีกลับ รอเพียงฎีกาส่งถึงกระทรวงเพื่อพิจารณาเนื้อหาสาระภายในฎีกา ชี้ “สุรพงษ์” อ้างเป็นญาติห่างๆ ถือว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ ย้ำผู้ขอพระราชทานอภัยโทษแทนต้องเป็นญาติสายตรงเท่านั้น
วันนี้ (19 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ถนนพญาไท นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณากรณีการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของกลุ่มเสื้อแดงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ที่ได้วางไว้ถือปฎิบัติโดยกำหนดให้ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องที่ยืนฎีกาขอ พระราชทานอภัยโทษมี บิดา มารดา คู่สมรส บุตร ญาติ หรือคนที่พึ่งพิงกันอยู่ โดยเรื่องนี้จะไม่มีการสกัดกั้นทุกอย่างจะไปไปตามหลักการ เหตุผล ข้อกฎหมาย ต้องตีความให้ชัดเจน เพราะเรื่องนี้วิธีการไม่มีการดำเนินการตามวิธีการปกติ จึงต้องขอดูสาระและกฎหมาย หากไม่ถูกต้องก็คงเหมือนกับการเขียนคำฟ้องต่อศาลไม่ถูกต้อง ศาลก็ไม่รับฟ้อง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เป็นญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงมีผลให้ฎีกากลุ่มเสื้อแดงเข้าหลักเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ นั้นหากเป็นญาติห่างๆ ไม่ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ตามการปฏิบัติ ที่ผ่านมา ผู้มีสิทธิ์ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแทนผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาต้องเป็นญาติสายตรง เกี่ยวข้องเป็นพ่อแม่ ภรรยา บุตร หรือญาติที่อาศัยพึ่งพิงกันอยู่ หากมีประเด็นข้อสงสัยก็ต้องตีความให้ชัดเจน ซึ่งทุกขั้นตอนจะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องยอมรับและสำนึกในความผิดที่ทำและให้คำมั่นว่าจะกลับตนเป็นคนดีก่อน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำแนะนำจากหน่วยงานใด รวมถึงรัฐบาลก็ไม่ได้ชี้นำใดๆ มายังกระทรวงยุติธรรม ขั้นตอนขณะนี้รอให้ฎีกาส่งถึงกระทรวงเพื่อพิจารณาเนื้อหาสาระภายในฎีกา
