จับ “บังฤทธิ์” พ่อค้ายานรกหมายจับตามตัวเพียบ

“นครบาล” รวบพ่อค้ายาพร้อมของกลางยานรกทุกประเภท อาวุธปืนทั้งจริง-ปลอมหลายกระบอก แถมพบประวัติหมายจับติดตามอีกอื้อ

วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.พญาไท แถลงข่าวผลการจับกุม นายสุพจน์ หรือบังฤทธิ์ นิ่มเจริญ อายุ 27 ปี และนายนรินทร์ หรือไก่ ปิ่นประเสริฐ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ 5 ถุงเล็ก ยาไอซ์ปลอม 81.70 กรัม ยาบ้า 116 เม็ด อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนออโตเมติก ขนาด.38 ซูเปอร์ 1 กระบอก อาวุธปืนปลอม 2 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวนมาก อาวุธมีดพกยาวประมาณ 1 ฟุต รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ชฉ 6414 กทม. โดยจับกุมนายสุพจน์ได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในชุมชนบ้านครัวใต้ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. และจบกุมนายนริทร์ได้ที่บริเวณกลางซอยโรงเรียนจารุณี

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ได้จับกุมตัว ด.ญ.ติ๋ม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี พร้อมยาบ้า 86 เม็ด ที่หน้าร้านณัฏฐ์เกมส์ กลางซอยภักดี 1 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี จากนั้นได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า ด.ญ.ติ๋ม ซื้อยาบ้ามาจากนายบังฤทธิ์ เพื่อนำไปขายให้กับวัยรุ่นตามร้านเกม เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจับกุมนายบังฤทธิ์ ซึ่งจากการสอบสวนนายบังฤทธิ์สารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายนรินทร์ โดยซื้อยาบ้ามาถุงละ 21,000 บาท และมาขายย่อยเม็ดละ 220 บาท ส่วนยาไอซ์ขาย 1 กรัม ราคา 2,200 บาท ก่อนนำมาจำหน่ายราคา 2,500 บาท

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อไปว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้วางแผนจับกุมนายนรินทร์ ซึ่งจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ จากการสอบสวนนายนริทร์ให้การรับสารภาพว่าส่วนใหญ่จะขายยาบ้าและยาไอซ์ให้กับบุคคลทั่วไปในย่านถนนบรรทัดทองและใกล้เคียง

“นอกจากนี้ ตรวจสอบประวัติของนายนรินทร์ยังพบหมายจับหลบหนีประกันชั้นศาล 2 หมาย คือ ศาลอาญารัชดา และศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว