ปดส.สนธิกำลังดีเอสไอ รวบยกแก๊งพม่าค้ามนุษย์ โดยปลอมเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ล่อนายหน้าออกมาเอาเงินเรียกค่าไถ่แรงงานที่ถูกกักขังในพื้นที่ช่องแสมสาร หลังเหยื่อถูกข่มขู่ฆ่าหากแจ้งตำรวจ ขยายผลช่วยแรงงานต่างด้าวได้อีก 8 คน ทุกคนยันถูกคุมขัง เพื่อใช้งานในเรือประมง มีแรงงานถูกฆ่าตายแล้ว 1 ราย
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำต่อเด็กเยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวจับกุม นายกะต้อง อายุ 36 ปี นายเมด็อก อายุ 31 ปี และ นายโมน อายุ 40 ปี ทั้งหมดเชื้อชาติมอญ สัญชาติพม่า พร้อมของกลางซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ และธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 15 ใบ ที่ใช้ในการล่อซื้อ จับกุมได้ที่บริเวณวิหารหลวงพ่อดำ วัดแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ญาติของ นายจอวินทู อายุ 29 ปี แรงงานชาวพม่า ได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า นายจอวินทู ถูกนายหน้าค้าแรงงานชาวพม่ากักขังอยู่ในพื้นที่ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยนายหน้ายังแจ้งด้วยว่า หากต้องการให้ปล่อยตัวก็จะต้องนำเงินจำนวน 15,000 บาท มาจ่ายให้เป็นค่าไถ่ ไม่เช่นนั้นก็จะส่งตัว นายจอวินทู ไปทำงานในเรือประมงนอกชายฝั่ง และหากทางญาติตุกติก หรือไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ก็จะฆ่านายจอวินทู
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวอีกว่า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานขอกำลังตำรวจ บก.ปดส.เพื่อเข้าช่วยเหลือ นายจอวินทู โดยวางแผนให้ตำรวจปลอมตัวเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ และให้ญาติของ นายจอวินทู โทรศัพท์ติดต่อกับนายหน้านัดหมายว่าจะนำเงินไปมอบให้บริเวณวิหารหลวงพ่อดำ วัดแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อถึงเวลานัด นายกะต้อง นายเมด็อก และ นายโมน ได้ขับรถพาตัว นายจอวินทู มายังบริเวณดังกล่าวก่อนจะเรียกรับเงิน ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อจับกุม แต่ นายกะต้อง และ นายเมด็อก พยายามวิ่งหลบหนีและต่อสู้ขัดขืน แต่ตำรวจก็สามารถจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด
“หลังจากได้สอบปากคำ นายจอวินทู แล้วทราบว่า ยังมีแรงงานพม่าที่ตกเป็นเหยื่อถูกกักขังไว้ที่บริเวณสะพานปลาคณาศรีนุวัติ และบ้านเช่าที่อยู่ใกล้กัน จึงขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นและช่วยเหลือแรงงานชาวพม่า ได้อีก 8 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนอายุเพียง 15 ปี ทั้งหมดต่างระบุว่าถูกขังไว้ในห้อง เพื่อไปใช้แรงงานในเรือประมง นอกจากนี้ ยังมีแรงงานพม่าถูกฆ่าตายไปแล้ว 1 ราย คือ นายโจจี อายุ 26 ปี” รอง ผบช.ก.กล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายกะต้อง และ นายเมด็อก ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ สอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำต่อเด็กเยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวจับกุม นายกะต้อง อายุ 36 ปี นายเมด็อก อายุ 31 ปี และ นายโมน อายุ 40 ปี ทั้งหมดเชื้อชาติมอญ สัญชาติพม่า พร้อมของกลางซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ และธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 15 ใบ ที่ใช้ในการล่อซื้อ จับกุมได้ที่บริเวณวิหารหลวงพ่อดำ วัดแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ญาติของ นายจอวินทู อายุ 29 ปี แรงงานชาวพม่า ได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า นายจอวินทู ถูกนายหน้าค้าแรงงานชาวพม่ากักขังอยู่ในพื้นที่ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยนายหน้ายังแจ้งด้วยว่า หากต้องการให้ปล่อยตัวก็จะต้องนำเงินจำนวน 15,000 บาท มาจ่ายให้เป็นค่าไถ่ ไม่เช่นนั้นก็จะส่งตัว นายจอวินทู ไปทำงานในเรือประมงนอกชายฝั่ง และหากทางญาติตุกติก หรือไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ก็จะฆ่านายจอวินทู
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวอีกว่า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานขอกำลังตำรวจ บก.ปดส.เพื่อเข้าช่วยเหลือ นายจอวินทู โดยวางแผนให้ตำรวจปลอมตัวเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ และให้ญาติของ นายจอวินทู โทรศัพท์ติดต่อกับนายหน้านัดหมายว่าจะนำเงินไปมอบให้บริเวณวิหารหลวงพ่อดำ วัดแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อถึงเวลานัด นายกะต้อง นายเมด็อก และ นายโมน ได้ขับรถพาตัว นายจอวินทู มายังบริเวณดังกล่าวก่อนจะเรียกรับเงิน ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อจับกุม แต่ นายกะต้อง และ นายเมด็อก พยายามวิ่งหลบหนีและต่อสู้ขัดขืน แต่ตำรวจก็สามารถจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด
“หลังจากได้สอบปากคำ นายจอวินทู แล้วทราบว่า ยังมีแรงงานพม่าที่ตกเป็นเหยื่อถูกกักขังไว้ที่บริเวณสะพานปลาคณาศรีนุวัติ และบ้านเช่าที่อยู่ใกล้กัน จึงขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นและช่วยเหลือแรงงานชาวพม่า ได้อีก 8 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนอายุเพียง 15 ปี ทั้งหมดต่างระบุว่าถูกขังไว้ในห้อง เพื่อไปใช้แรงงานในเรือประมง นอกจากนี้ ยังมีแรงงานพม่าถูกฆ่าตายไปแล้ว 1 ราย คือ นายโจจี อายุ 26 ปี” รอง ผบช.ก.กล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายกะต้อง และ นายเมด็อก ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ สอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป