หนุ่มรับเหมาก่อสร้างเมาสุรา เหยียบ 120 กม./ชม. ซิ่งชนรถตราโล่ตำรวจบนทางขึ้นด่วนประชาอุทิศพังยับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ที่นั่งด้านหน้าเจ็บสาหัส ส่ง รพ.กรุงเทพ ตำรวจ สน.ทางด่วน1 จับตรวจแอลกอฮอล์พบสูงถึง 179 มก. อ้างดื่มเบียร์แค่ 4 กระป๋อง
วานนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ท.วรเทพ สงวนแสง ร้อยเวร (สบ 3) สน.ทางด่วน 1 ได้รับแจ้งเหตุรถชนรถตราโล่ของตำรวจบริเวณทางขึ้นทางด่วนประชาอุทิศ ขาเข้า แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ตราโล่ ทะเบียน ชพ 5707 กทม. สภาพพังยับเยิน ด้านหน้าและหลังยุบ กระจกหน้าแตก ด้านหลังแตก พลิกตะแคงบนทางด่วน ใกล้กันพบรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษธ 7150 กทม.อยู่ในสภาพพังยับเยินเช่นกัน ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 3 คนที่นั่งมาในรถตราโล่ของตำรวจเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.ท.ศุภกฤษ เดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.น.3 ช่วยราชการ กก.สส.น.1 และ ด.ต.เนตร ทักษา ผบ.หมู่ สำนักงานผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ทั้งนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวนายพงศธร เตชะธาดาเดช อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/40 ม.6 แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. คนขับรถกระบะอีซูซุ อาชีพรีบเหมาก่อสร้างซึ่งมีอาการเมาสุราไปสอบปากคำและตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ สน.ทางด่วน 1
โดยมีรายงานอาการของผู้บาดเจ็บว่า พล.ต.ต.วิชัย มีอาการเจ็บหน้าอก และลำคอ อาเจียน ไม่หยุด แต่อาการโดยทั่วไปปลอดภัยแล้ว แพทย์ รพ.กรุงเทพ อยู่ระหว่างเฝ้าดูอาการ ส่วน พ.ต.ท.ศุภกฤษ มีอาการบาดเจ็บที่บาดเจ็บแขนซ้าย ส่วน ด.ต.เนตร บาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถาม พ.ต.ท.ศุภกฤษ เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุตน และพล.ต.ต.วิชัย ได้ไปทำธุระย่านรามอินทรา โดยตนนั่งแค็บกระบะหลัง พล.ต.ต.วิชัย นั่งหน้า โดยมี ด.ต.เนตร เป็นคนขับ ขณะที่รถขึ้นทางด่วนประชาอุทิศ ปรากฏว่ารถกระบะอีซูซุที่วิ่งมาด้วยความเร็วเบียดมาชนจนรถหมุนและพลิกตะแคง ตนบาดเจ็บไม่มากจึงออกจากรถได้ก่อน แล้วช่วยนำตัว พล.ต.ต.วิชัย ที่ได้รับบาดเจ็บออกมา
ด้าน นายพงศธรกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์จำนวน 4 กระป๋อง มาจากที่ไซต์งานก่อสร้างที่ตนรับเหมาย่านนวมินทร์ แล้วขับรถขึ้นทางด่วนเพื่อจะกลับบ้านที่สุวรรณภูมิ โดยขับมาด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อชั่วโมง แต่มาประสบอุบัติเหตุก่อน ส่วนรายละเอียดขณะเกิดเหตุนั้นจำไม่ได้ โดยนายพงศธรเล่าอย่างสับสนวกวนไปมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำนายพงศธรเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 179 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับคตวามเสียหายและอันตราย และขับรถในขณะมึนเมาสุรา โดยเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว นายพงศธร ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ ช่วงเช้าวันนี้ซึ่งนายพงศธรได้ใช้หลักทรัพย์จำนวน 2 หมื่นบาท เพื่อยื่นขอประกันตัว
วานนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ท.วรเทพ สงวนแสง ร้อยเวร (สบ 3) สน.ทางด่วน 1 ได้รับแจ้งเหตุรถชนรถตราโล่ของตำรวจบริเวณทางขึ้นทางด่วนประชาอุทิศ ขาเข้า แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ตราโล่ ทะเบียน ชพ 5707 กทม. สภาพพังยับเยิน ด้านหน้าและหลังยุบ กระจกหน้าแตก ด้านหลังแตก พลิกตะแคงบนทางด่วน ใกล้กันพบรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษธ 7150 กทม.อยู่ในสภาพพังยับเยินเช่นกัน ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 3 คนที่นั่งมาในรถตราโล่ของตำรวจเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.ท.ศุภกฤษ เดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.น.3 ช่วยราชการ กก.สส.น.1 และ ด.ต.เนตร ทักษา ผบ.หมู่ สำนักงานผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ทั้งนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวนายพงศธร เตชะธาดาเดช อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/40 ม.6 แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. คนขับรถกระบะอีซูซุ อาชีพรีบเหมาก่อสร้างซึ่งมีอาการเมาสุราไปสอบปากคำและตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ สน.ทางด่วน 1
โดยมีรายงานอาการของผู้บาดเจ็บว่า พล.ต.ต.วิชัย มีอาการเจ็บหน้าอก และลำคอ อาเจียน ไม่หยุด แต่อาการโดยทั่วไปปลอดภัยแล้ว แพทย์ รพ.กรุงเทพ อยู่ระหว่างเฝ้าดูอาการ ส่วน พ.ต.ท.ศุภกฤษ มีอาการบาดเจ็บที่บาดเจ็บแขนซ้าย ส่วน ด.ต.เนตร บาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถาม พ.ต.ท.ศุภกฤษ เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุตน และพล.ต.ต.วิชัย ได้ไปทำธุระย่านรามอินทรา โดยตนนั่งแค็บกระบะหลัง พล.ต.ต.วิชัย นั่งหน้า โดยมี ด.ต.เนตร เป็นคนขับ ขณะที่รถขึ้นทางด่วนประชาอุทิศ ปรากฏว่ารถกระบะอีซูซุที่วิ่งมาด้วยความเร็วเบียดมาชนจนรถหมุนและพลิกตะแคง ตนบาดเจ็บไม่มากจึงออกจากรถได้ก่อน แล้วช่วยนำตัว พล.ต.ต.วิชัย ที่ได้รับบาดเจ็บออกมา
ด้าน นายพงศธรกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์จำนวน 4 กระป๋อง มาจากที่ไซต์งานก่อสร้างที่ตนรับเหมาย่านนวมินทร์ แล้วขับรถขึ้นทางด่วนเพื่อจะกลับบ้านที่สุวรรณภูมิ โดยขับมาด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อชั่วโมง แต่มาประสบอุบัติเหตุก่อน ส่วนรายละเอียดขณะเกิดเหตุนั้นจำไม่ได้ โดยนายพงศธรเล่าอย่างสับสนวกวนไปมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำนายพงศธรเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 179 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับคตวามเสียหายและอันตราย และขับรถในขณะมึนเมาสุรา โดยเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว นายพงศธร ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ ช่วงเช้าวันนี้ซึ่งนายพงศธรได้ใช้หลักทรัพย์จำนวน 2 หมื่นบาท เพื่อยื่นขอประกันตัว