xs
xsm
sm
md
lg

จับกะเทยแสบลักเอทีเอ็มยุ่นกดเกลี้ยงถลุงลงบ่อน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุรเวช หรือ แอน หรือหน่อย หรือส้ม รัตนปาณี อายุ 54 ปี สาวประเภทสอง ผู้ต้องหา
รวบกะเทยเฒ่าหลอกเป็นนักท่องเที่ยวมาเลย์-ตากาล็อก ใช้อุบายลวงเหยื่อญี่ปุ่น อ้างมีแบงก์พันขอแลกเงินค่าโดยสาร หากเหยื่อไม่มีจะหว่านล้อมให้กดเอทีเอ็มแล้วแอบดูรหัส ชักชวนขึ้นรถแท็กซี่ ขโมยเอทีเอ็ม-บัตรเครดิต กดเงินเกลี้ยง รับทำมานาน 10 ปี มีเงิน 10 ล้าน เล่นพนันบ่อน ปท.เพื่อนบ้าน พึ่งถูกจับได้หลังคู่หูโชเฟอร์แท็กซี่ถูกจับก่อนหน้านี้

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 13.00 น.พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายสุรเวช หรือ แอน หรือ หน่อย หรือ ส้ม รัตนปาณี อายุ 54 ปี สาวประเภทสอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 317, 318/2552 ลงวันที่ 18 ก.พ.2552 พร้อมของกลางบัตรเครดิต ของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบและบัตรนั้นออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อเบิกเงินสด, เอาไป ซึ่งเอกสารของผู้อื่น

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2552 ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่น ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า ถูกผู้ต้องหาร่วมกับโชเฟอร์แท็กซี่ ขโมยบัตรเครดิต และนำไปรูดเงิน พ.ต.ท.กิตติวัชร์ ภูมิธเนศ สว.สส.สน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือ นายสุรเวช จึงของอนุมัติหมายศาลและติดตาม โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 38/340 ถ.เลียบคลอง 3 ต.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ด้าน นายสุรเวช ให้การรับสารภาพว่า ตนเองไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่จะร่วมกับคู่ขาที่เป็นโชเฟอร์แท็กซี่ ตระเวนเลือกนักท่องเที่ยวเน้นเฉพาะญี่ปุ่น เนื่องจากตนเองพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง โดยจะเข้าไปพูดคุยสอบถามเส้นทาง โดยอ้างตัวเองว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย หรือ ฟิลิปปินส์ เพิ่งเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และขอแลกเงินจ่ายค่าโดยสาร โดยอ้างว่ามีแต่ธนบัตรใบละ 1,000 บาท หากเหยื่อไม่มีก็จะพยายามหว่านล้อมให้ไปกดที่ตู้เอทีเอ็ม จนเหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจะแอบไปยืนด้านหลังแอบดูและจดจำรหัสบัตร และจะชักชวนให้เหยื่อขึ้นรถมาด้วยกัน แล้วใช้อุบายแอบขโมยบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิตนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะไปกดเงินสด โดยทำมาแล้วกว่า 10 ปี ได้เงินไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท เพิ่งมาถูกจับครั้งนี้

“เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปแบ่งกับโชเฟอร์ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ โดยจะนำเงินไปเล่นพนันตามบ่อนชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน หากเงินหมดก็จะกลับมาตระเวนก่อเหตุอีก” นายสุรเวชสารภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น