ตำรวจแกะรอยจากโทรศัพท์มือถือ ได้เค้ามือยิงเสี่ยโรงน้ำแข็งกับพวก ดับ 2 เจ็บ 1 คาดคนร้าย มี 2 คน คุ้นเคยกับคนในกลุ่มผู้ตายหลังนัดกันมาตกลงปัญหาก่อนลงมือฆ่า เบื้องต้นเตรียมรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ
จากกรณีนายสุรณรงค์ หรือไก่ เลิศรัตนศาสตร์ เจ้าของโรงน้ำแข็งย่านซอยสวนผัก ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตภายในรถกระบะโตโยต้าไฮลักซ์ ไทเกอร์ ในซอยอรุณอมรินทร์ 53 และนายเอกรัฐ หรือฮอง รัตนเทพสถิต ที่เดินทางมาด้วยกันถูกยิงเสียชีวิตด้วยอีกศพหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีนายจักรพงษ์ หรือยอด เลิศรัตนศาสตร์ พี่ชายนายสุรณรงค์ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็นคือเรื่องยาเสพติดหรือชู้สาวนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 ก.ค.) พ.ต.ท.อัครวิน สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า หลังเกิดเหตุได้นำตัวพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุและญาติของผู้ตายมาสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว ทำให้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสุรณรงค์กำลังสังสรรค์กับนายเอกรัฐ อยู่ที่โรงงานน้ำแข็งในซอยสวนผัก 19 จากนั้นก็มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหานายเอกรัฐเพื่อให้มาเคลียร์ปัญหาบางอย่าง ทำให้นายเอกรัฐรีบออกไปทันที โดยชวนนายสุรณรงค์และนายจักรพงษ์ไปเป็นเพื่อนด้วย
พ.ต.ท.อัครวิน กล่าวต่อว่า เมื่อทั้งสามคนมาถึงที่นัดหมายบริเวณปากซอยอรุณอมรินทร์ 53 นายเอกรัฐได้ลงจากรถเดินเข้าไปพบกับคนร้าย 2 คนที่มารออยู่ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้าไปคุยกันในซอยเปลี่ยวที่กำลังก่อสร้างคอนโดมิเนียม แต่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันไม่รู้เรื่องทำให้มีปากเสียงกัน นายเอกรัฐจึงเดินออกมาจากซอยเพื่อขึ้นรถกลับ แต่คนร้ายทั้งสองคนก็เดินตามไปนายเอกรัฐเพื่อขอเคลียร์ปัญหาอีกครั้งจนเกิดมีปากเสียงกันอีกรอบ ทำให้คนร้ายชักอาวุธปืนกราดยิงใส่นายเอกรัฐจนเสียชีวิต รวมทั้งยิงนายสุรณรงค์จนเสียชีวิตคาพวงมาลัย ส่วนนายจักรพงษ์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว จากนั้นคนร้ายก็รีบขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปทันที อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายจักรพงษ์จะเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำหัวกระสุนออก คาดว่าอาการน่าจะปลอดภัย
พ.ต.ท.อัครวิน กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติทั้งสามคนพบว่า นายจักรพงษ์ และนายสุรณรงค์ เป็นลูกชายเจ้าของโรงน้ำแข็ง มีประวัติเคยตถูกดำนินคดีทะเลาะวิวาท และฆ่าคนตาย ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองคนอยู่ในช่วงประกันตัวต่อสู้คดี ส่วนนายเอกรัฐนั้นจะเป็นคนชอบเล่นดนตรีมาก เวลาไปไหนจะพกแทมมารีนปิงปองติดตัวไปด้วยตลอด นอกจากนี้ยังเคยถูกดำเนินคดีจี้ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์มาก่อน
“เบื้องต้นยังไม่สรุปสาเหตุที่ชัดเจน แต่คนร้ายกับนายเอกรัฐนั้นต้องรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีแน่ ซึ่งอาจจะเกิดขัดผลประโยชน์กันบางอย่าง ต้องรอสอบปากคำนายจักรพงษ์อีกครั้ง แต่ทางตำรวจได้เริ่มแกะรอยจากโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาหานายเอกรัฐ จนในที่สุดก็รู้ตัวคนร้ายและมีรูปถ่ายแล้ว 1 คน โดยทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป” รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน กล่าว
กระหน่ำยิงโหด! เสี่ยโรงงานน้ำแข็งดับคารถพร้อมคนงาน พี่ชายเจ็บสาหัส