สลด!!! หนูน้อยวัยขวบเศษรื้อถังขยะเจอนมเปรี้ยวยี่ห้อโปรด ยกซดทั้งขวดไม่รู้ข้างในเป็นน้ำยาล้างเครื่องเงิน น้าชายพยายามช่วยสุดชีวิตแต่ไม่รอด แม่รู้ข่าวถึงลมจับ เผยทิ้งในขวดนมมัดถุงซ่อนในถังขยะ คาดไม่ถึงลูกชายจะรื้อค้นจนเอามากิน
วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.ท.จตุพร วัชรพันธพงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สำเหร่ รับแจ้งเหตุมีเด็กกินน้ำยาล้างเครื่องเงินและเสียชีวิตที่ รพ.ศิริราช จึงรุดไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ ด.ช.ธัญพิสิทธิ์ เพ่งสุวรรณ อายุ 1 ขวบ 2 เดือน หรือน้องเต็งหนึ่ง โดยมีบิดามารดาและญาติพี่น้องยืนร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
จากการสอบสวน นายสุริยา พลเยี่ยม อายุ 17 ปี น้าชายของเด็กเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ขณะที่พ่อน้องเต็งหนึ่งไปทำงานที่บริษัท เหมรัตน์เครื่องเงิน ส่วนแม่มีอาชีพทำงานเย็บผ้า ที่ผ่านมาน้องเต็งหนึ่งจะอยู่กับตนโดยตลอด ก่อนเกิดเหตุนั้นตนอยู่กับน้องเต็งหนึ่งภายในห้องตามปกติ โดยในระหว่างที่ตนเปิดดูทีวีอยู่นั้น ด้วยความซุกซนน้องเต็งหนึ่งก็ไปรื้อถังขยะเล่น โดยตอนนั้นตนยังไม่ทันรู้ว่าภายในถังขยะนั้นแม่ของน้องเต็งหนึ่งได้เอาน้ำยาล้างเครื่องเงินใส่ในขวดนมเปรี้ยวและเอาถุงพลาสติกมัดยางอีกที โดยนำไปซ่อนใว้ในข้างถังขยะหน้าห้องน้ำ
“เพียงไม่กี่นาทีผมก็เห็นหลานอาเจียนและร้องไห้ ตอนนั้นรู้สึกตกใจพยายามให้หลานอาเจียนออกมาให้หมด แต่ก็ไม่เป็นผล ผมก็ได้นำหลานไปล้างปากแต่อาการของหลานก็ยังไม่ดีขึ้น ตัวเริ่มแข็ง จึงรีบบอกให้ทางญาติทราบและนำหลานไปรักษาตัวที่สาธารณสุขซึ่งอยู่ใกล้บ้าน เมื่อไปถึงหมอก็ช่วยกันปั๊มหัวใจหลานสุดความสามารถ แต่เนื่องจากว่าที่สาธารณสุขไม่มีเครื่องมือช่วยอย่างเต็มที่จึงต้องพาไปส่งที่โรงพยาบาลตากสิน แต่เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่าหลานได้เสียชีวิตไปแล้ว รู้สึกเสียใจมากเพราะหลานคนนี้อยู่กับผมตลอดเวลา แม้ว่าหลานจะซุกซนก็ซุกซนตามประสาเด็กที่ชอบเอาของเข้าปาก และนมเปรี้ยวยี่ห้อนี้ก็เป็นนมเปรี้ยวที่หลานชอบดื่มตลอดอยู่เป็นประจำ คาดว่าหลานคงคิดว่ากินได้ก็เลยหยิบมาดื่มกิน จนกระทั่งเสียชีวิต” นายสุริยา กล่าว
ด้าน น.ส.เจษฎาพร เพ่งสุวรรณ อายุ 24 ปี มารดาน้องเต็งหนึ่งกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุตนทำงานเย็บผ้าอยู่ ส่วนลูกชายนั้นน้องชายเลี้ยงอยู่ที่บ้าน และได้รับโทรศัพท์จากสามีว่าลูกได้ดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงินเข้าไป ตนรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางโรงพยาบาล ครั้งแรกหมอบอกว่าลูกจะรอด 70 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นก็บอกอีกว่าลูกจะรอด 50-50 เปอร์เซ็นต์ แต่พอหมอมาบอกครั้งที่ 3 ใจแทบสลายเมื่อหมอบอกว่าลูกเสียชีวิตแล้ว
“เสียใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูก และยอมรับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ที่เกิดเหตุนี้ขึ้นกับลูก แม้ว่าลูกจะซุกซนก็เป็นไปตามวัยและนมยี่ห้อนี้ลูกก็ดื่มเป็นประจำเป็นสิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดในชีวิตเพราะลูกเพิ่งคลอดมาได้แค่ขวบเศษๆ ก็ต้องมาเสียชีวิตไปแล้ว” น.ส.เจษฎาพร กล่าว
วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.ท.จตุพร วัชรพันธพงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สำเหร่ รับแจ้งเหตุมีเด็กกินน้ำยาล้างเครื่องเงินและเสียชีวิตที่ รพ.ศิริราช จึงรุดไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ ด.ช.ธัญพิสิทธิ์ เพ่งสุวรรณ อายุ 1 ขวบ 2 เดือน หรือน้องเต็งหนึ่ง โดยมีบิดามารดาและญาติพี่น้องยืนร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
จากการสอบสวน นายสุริยา พลเยี่ยม อายุ 17 ปี น้าชายของเด็กเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ขณะที่พ่อน้องเต็งหนึ่งไปทำงานที่บริษัท เหมรัตน์เครื่องเงิน ส่วนแม่มีอาชีพทำงานเย็บผ้า ที่ผ่านมาน้องเต็งหนึ่งจะอยู่กับตนโดยตลอด ก่อนเกิดเหตุนั้นตนอยู่กับน้องเต็งหนึ่งภายในห้องตามปกติ โดยในระหว่างที่ตนเปิดดูทีวีอยู่นั้น ด้วยความซุกซนน้องเต็งหนึ่งก็ไปรื้อถังขยะเล่น โดยตอนนั้นตนยังไม่ทันรู้ว่าภายในถังขยะนั้นแม่ของน้องเต็งหนึ่งได้เอาน้ำยาล้างเครื่องเงินใส่ในขวดนมเปรี้ยวและเอาถุงพลาสติกมัดยางอีกที โดยนำไปซ่อนใว้ในข้างถังขยะหน้าห้องน้ำ
“เพียงไม่กี่นาทีผมก็เห็นหลานอาเจียนและร้องไห้ ตอนนั้นรู้สึกตกใจพยายามให้หลานอาเจียนออกมาให้หมด แต่ก็ไม่เป็นผล ผมก็ได้นำหลานไปล้างปากแต่อาการของหลานก็ยังไม่ดีขึ้น ตัวเริ่มแข็ง จึงรีบบอกให้ทางญาติทราบและนำหลานไปรักษาตัวที่สาธารณสุขซึ่งอยู่ใกล้บ้าน เมื่อไปถึงหมอก็ช่วยกันปั๊มหัวใจหลานสุดความสามารถ แต่เนื่องจากว่าที่สาธารณสุขไม่มีเครื่องมือช่วยอย่างเต็มที่จึงต้องพาไปส่งที่โรงพยาบาลตากสิน แต่เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่าหลานได้เสียชีวิตไปแล้ว รู้สึกเสียใจมากเพราะหลานคนนี้อยู่กับผมตลอดเวลา แม้ว่าหลานจะซุกซนก็ซุกซนตามประสาเด็กที่ชอบเอาของเข้าปาก และนมเปรี้ยวยี่ห้อนี้ก็เป็นนมเปรี้ยวที่หลานชอบดื่มตลอดอยู่เป็นประจำ คาดว่าหลานคงคิดว่ากินได้ก็เลยหยิบมาดื่มกิน จนกระทั่งเสียชีวิต” นายสุริยา กล่าว
ด้าน น.ส.เจษฎาพร เพ่งสุวรรณ อายุ 24 ปี มารดาน้องเต็งหนึ่งกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุตนทำงานเย็บผ้าอยู่ ส่วนลูกชายนั้นน้องชายเลี้ยงอยู่ที่บ้าน และได้รับโทรศัพท์จากสามีว่าลูกได้ดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงินเข้าไป ตนรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางโรงพยาบาล ครั้งแรกหมอบอกว่าลูกจะรอด 70 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นก็บอกอีกว่าลูกจะรอด 50-50 เปอร์เซ็นต์ แต่พอหมอมาบอกครั้งที่ 3 ใจแทบสลายเมื่อหมอบอกว่าลูกเสียชีวิตแล้ว
“เสียใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูก และยอมรับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ที่เกิดเหตุนี้ขึ้นกับลูก แม้ว่าลูกจะซุกซนก็เป็นไปตามวัยและนมยี่ห้อนี้ลูกก็ดื่มเป็นประจำเป็นสิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดในชีวิตเพราะลูกเพิ่งคลอดมาได้แค่ขวบเศษๆ ก็ต้องมาเสียชีวิตไปแล้ว” น.ส.เจษฎาพร กล่าว
