ตร.ยันไม่ได้เม้มเงินเกษียณก่อนกำหนด-งบไม่พอต้องรองบกลาง

“วัชรพล” แจงเงินโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด กับเงินโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลคนละส่วนกัน โดยเกษียณใช้งบจากเงินงบบุคลากร แต่มีงบเหลือไม่พอ ได้แจ้งให้ คปร.และทุกหน่วยของ ตร.ทราบแล้ว ซึ่งจะต้องขอสนับสนุนงบกลางจากกรมบัญชีกลาง ทำให้ ตร.ต้องชะลอโครงการจ่ายไม่ทันปี 53

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักเกณฑ์เงื่อนไขให้เงินก้อน 8-15 เท่า ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับนำโครงการดังกล่าวไปแปลงเป็นโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล โดยให้เลื่อนแต่ยศแต่ไม่ให้เงินก้อน ว่า โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดและโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลไม่ใช่โครงการเดียวกัน โดยโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดเป็นไปตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ร่วมโครงการจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 8-15 เท่าของเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) ซึ่งหากไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการปฏิบัติราชการโดยรวม และมีงบประมาณซึ่งบริหารจัดการจากวงเงินงบบุคลากรของส่วนราชการก็สามารถดำเนินการได้

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลเป็นการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2543 ซึ่งผู้ร่วมโครงการมีสิทธิได้รับพระราชทานยศหรือเลื่อนยศสูงขึ้น 1 ชั้นยศเป็นกรณีพิเศษ และคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ หาก ตร.พิจารณาเห็นว่าเป็นผลดีและเกิดประโยชน์กับทางราชการ ซึ่งดำเนินการตามโครงการนี้มาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2544

“การดำเนินโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดปีงบประมาณ 2553 นั้น เนื่องจาก ตร.จะต้องใช้งบประมาณจากเงินงบบุคลากรของ ตร.เอง แต่ ตร.ไม่มีงบเหลือเพียงพอ ประกอบกับเงินที่จะใช้มารองรับการเลื่อนขั้นเงินเดือน เลื่อนอันดับเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการตำรวจ ตร.จะต้องขอสนับสนุนงบกลางจากงบกรมบัญชีกลาง ทำให้ ตร.ไม่สามารถดำเนินโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดปีงบประมาณ 2553ได้ โดยได้แจ้งกรณีนี้ให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) และทุกหน่วยงานของ ตร.ทราบแล้ว ซึ่งโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดปีงบประมาณ 2553 ผู้เข้าร่วมโครงการมีสิทธิได้รับพระราชทานยศ หรือเลื่อนยศสูงขึ้น 1 ชั้นยศเป็นกรณีพิเศษนั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการ” โฆษก ตร.กล่าว