xs
xsm
sm
md
lg

กรมพินิจฯให้ญาติเยี่ยมผ่านคอนเฟอเรนซ์ ปิดกั้นหวัด 2009

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ญาติเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ป้องกันเชื้อโรคติดมากับญาติแพร่สู่เด็ก และวางมาตรการเข้มป้องกันหวัด 2009 ด้านกรมสุขภาพจิตพบประชาชน 34 เปอร์เซ็นต์ มีภาวะหวาดระแวงโกรธแค้น สธ.ปิดบังข้อมูล วอนประชาชนหันมาช่วยกันป้องกันสวมหน้ากากปิดจมูก และปากกันทั่วประเทศ

วันนี้ (13 ก.ค.) นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวถึงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ภายในสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานพินิจและศูนย์ฝึกอบรมทุกแห่ง สังเกตอาการของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแล รวมทั้งให้ตรวจสุขภาพเด็กและเยาวชนที่ถูกส่งเข้ามาอยู่ใหม่ทุกราย โดยให้วัดอุณหภูมิว่ามีไข้หรือไม่ หากพบว่าเด็กมีไข้ให้รีบแยกออกจากกลุ่มทันที นอกจากนี้ สถานพินิจฯทุกแห่งจะต้องจัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับเด็กป่วย

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า สำหรับสุขอนามัยในด้านอาหารการกินนั้น ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบขั้นตอนการหุงต้มอาหาร โดยจะต้องปรุงให้สุกก่อนที่จะให้เด็กกิน และต้องกำชับให้เด็กล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ระบาด นอกจากนี้ ทางกรมจะนำระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาใช้แทนการเข้าเยี่ยมเด็กและเยาวชน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ติดมากับญาติของเด็ก โดยจะเริ่มใช้กับสถานพินิจฯ นครสวรรค์ และบ้านกรุณา เนื่องจากสถานพินิจฯ ทั้ง 2 แห่ง มีเด็กและเยาวชนถูกควบคุมอยู่แห่งละไม่ต่ำกว่า 600 คน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของกรมพินิจฯ ประมาณ 6,500 คน ทั่วประเทศป่วยเป็นโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้

“ขณะนี้กรมพินิจฯ อยู่ระหว่างการประสานกับทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กระทรวงสาธารณสุข ในการขอใช้รถโมบายเข้ามาตรวจสุขภาพเด็กและเยาวชนที่อยู่ตามสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกทั่วประเทศ โดยบริการฟรี และจะทำให้สะดวกโดยที่เจ้าหน้าที่ ไม่ต้องนำเด็กออกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล” อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าว

ด้าน นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่และมีข่าวการเสียชีวิตทำให้ประชาชนหวาดระแวงและหวาดกลัวโรค โดยพบว่าใน 2 สัปดาห์แรกของการแพร่ระบาด ประชาชนกว่า 34% รู้สึกหวาดกลัว แต่ในสัปดาห์ที่ 3 ประชาชนที่รู้สึกหวาดกลัว ก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้นกระทรวงสาธารณสุข เพราะเข้าใจผิดว่ามีการปิดบังข้อมูล ตนจึงอยากให้ประชาชนลดความหวาดระแวง และหันมาช่วยกันป้องกันด้วยการสวมหน้ากากปิดจมูกและปากกันทั่วประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น