โชเฟอร์แท็กซี่ทะเลาะคู่กรณี ถูกยิงดับคาไม้คมแฝก

โชเฟอร์แท็กซี่เคราะห์ร้าย ซิ่งอัลติสตีคู่บีเอ็มดับเบิลยู มุ่งหน้าแยกสุรวงศ์ ทะเลาะด่าทอกันมาตลอดทาง กระทั่งโมโหลงจากรถถือคมแฝกหวังเจรจา แต่ถูกคู่กรณีซัลโวด้วยปืน .22 เข้าหน้าอกและท้องดับคาที่ ตำรวจคาดนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้า

วานนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 23.30 น. พ.ต.ท.สุริยา จำนงโชค พนักงานสอบสวน สบ.3 สารวัตรเวร สน.บางรัก รับแจ้งเหตุคนขับแท็กซี่ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณแยกสุรวงศ์ ตัดถนนเจริญกรุง 36 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. จึงประสานมูลนิธิร่วมกตัญญูและรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ปวิตร เลขะวณิช รอง ผบก.น.6

ที่เกิดเหตุบริเวณแยกสุรวงศ์ พบรถแท็กซี่สีชมพู ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส ทะเบียน ทว 5107 กทม.ของสหกรณ์แท็กซี่ไทย จำกัด จอดอยู่กลางแยก ลักษณะเปิดกระจกข้างหน้าด้านซ้ายและไฟเลี้ยวค้างไว้ และข้างตัวรถเหนือล้อหน้าด้านขวาพบรอยกระสุนจำนวน 1 รู นอกจากนี้ บริเวณใกล้กันยังพบปลอกกระสุนขนาด .22 ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และบริเวณฟุตปาธห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายสุริยา แก้วก่า อายุ 46 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีเหลือง กางเกงยีนส์ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย นอนเสียชีวิตสภาพมีเลือดและปัสสาวะไหล ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 2 นัด เข้าที่บริเวณท้องและหน้าอกด้านซ้าย นอกจากนี้ยังพบอาวุธไม้คมแฝกยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 อัน ตกอยู่ใกล้ศพผู้ตาย

พ.ต.อ.ปวิตร กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ตายเป็นคนขับแท็กซี่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอก และลิ้นปี่ จำนวน 2 นัดจนเสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นผู้ตายขับรถคันดังกล่าวตีคู่มากับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ทะเบียน วธ1510 กทม.อีกคันหนึ่ง ลักษณะเปิดกระจกข้างซ้ายและด่าทอกันมาตลอดทาง เมื่อขับถึงบริเวณแยกสุรวงศ์ น่าจะมีการขับปาดหน้ากัน จากนั้นคนขับแท็กซี่จึงถือไม้คมแฝกลงจากรถ และทะเลาะมีปากเสียงกับอีกฝ่ายซึ่งมีอาวุธปืน กระทั่งถูกคู่กรณีจ่อยิงระยะกระชั้นชิดจนเสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุคนร้ายขับรถเลี้ยวซ้ายไปทางถนนเจริญกรุง 36 หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะสามารถตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้

ด้าน พ.ต.ท.สุริยา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุสายตรวจ สน.บางรัก ได้รับแจ้งชาวบ้านว่ามีคนถูกยิงจึงรีบมาตรวจสอบและทราบว่ามีพยานเห็นเหตุการณ์ขณะใช้ปืนจ่อยิงผู้ตาย จากนั้นคนร้ายจึงขับรถเลี้ยวซ้ายหลบหนีไปทางถนนเจริญกรุง ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป