“สโรชา” ให้การปฏิเสธ “แม้ว” ฟ้อง เผยแพร่ข้อความกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง ส่วน “สนธิ” ส่งทนายความขอเลื่อนสอบคำให้การ เหตุอยู่ระหว่างพักฟื้นหลังเหตุการณ์ลอบยิง พร้อมขอสืบพยานลับหลังจำเลย ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตและนัดสอบคำให้การอีกครั้ง 18 ก.ย.นี้ เวลาบ่ายโมง
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานและสอบคำให้การ คดีที่ อ.3323/2550 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการ ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV และ บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ศาลยกฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ) เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2550 จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันจัดรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV และ นสพ.ผู้จัดการรายวัน ของจำเลยที่ 3 ตีพิมพ์ข้อความที่จำเลยที่ 1-2 กล่าวปราศรัยให้กลุ่มพันธมิตรฯที่สหรัฐฯ มาเผยแพร่ ทำนองว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า สาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาล เนื่องจากทนไม่ได้ที่หลังการยึดอำนาจรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ประมาณ 8 ชั่วโมง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
โดยวันนี้ นางสโรชา จำเลยที่ 2 เดินทางมาศาล ส่วน นายสนธิ จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล แต่มอบหมายให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดสอบคำให้การ เนื่องจากนายสนธิ ยังอยู่ระหว่างพักฟื้นบาดแผลที่ศีรษะจากเหตุการณ์ถูกลอบยิง พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอสืบพยานลับหลังจำเลยทั้งสอง เนื่องจากประกอบอาชีพสื่อมวลชน มีเหตุต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ทุกครั้ง
ศาลพิจารณาแล้วจึงอ่านและอธิบายคำฟ้องเพื่อสอบคำให้การนางสโรชา จำเลยที่ 2 ซึ่งให้การปฏิเสธ ส่วนคำร้องขอเลื่อนนัดสอบคำให้การจำเลยที่ 1 และคำขอสืบพยานลับหลังนั้น ศาลสอบถามทนายโจทก์แล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้สืบพยานลับหลังจำเลยได้ และนัดสอบคำให้การนายสนธิ จำเลยที่ 1 ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น.