ตำรวจท่องเที่ยวตามรวบตัวโชเฟอร์แท็กซี่แสบ หลอกเชิดเฮลิคอปเตอร์บังคับ 4 ลำ กล้องดิจิตอล 1 ตัว จากนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เจ้าตัวสารภาพอ้างทำเพราะรำคาญที่ถูกเรียกให้ไปส่งหลายที่
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พ.ต.อ.ชวลิต แสวงพืชช์ รอง ผบก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท. แถลงผลการจับกุม นายศักดิ์ชัย มั่งคั่ง อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 12 ต.จำปาชัน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางเครื่องบินบังคับเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 4 ลำ มูลค่า 4,600 บาท กล้องถ่ายรูปดิจิตอลยี่ห้อโซนี่ จำนวน 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 7 เลขที่ 13/15 ซ.จุฬา 3 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 23 มิ.ย.2552
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มาแจ้งตำรวจท่องเที่ยวให้ช่วยติดตามหารถแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร-3018 กทม. โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.เวลาประมาณ 15.30 น. นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 4 คน ได้แก่ นายเวลาปุราม นูร์ชา อายุ 40 ปี นายพอนมันนิชชินตากาช มูฮัมเหม็ด อายุ 42 ปี นายทาซเฮท ปุทานวิดู อายุ 45 ปี และ นายอรุลานันทัม บาลาชันดราน อายุ 59 ปี ได้เรียกรถแท็กซี่คันดังกล่าวเพื่อที่จะขึ้นรถไปเที่ยว โดยได้นำเฮลิคอปเตอร์บังคับ 4 ลำ และกล้องดิจิตอลใส่ไว้ที่เก็บของท้ายรถ จนกระทั่งไปส่งผู้โดยสารทั้งหมดที่ร้านฮาวาย อาบอบนวด แขวงและเขตคลองตัน กทม. โดยให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดเข้าไปในร้าน แต่เมื่อทั้งหมดกลับออกมาจากร้าน ปรากฏว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวได้หลบหนีไปโดยเอาทรัพย์สินที่อยู่ในรถไปด้วย
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ และทราบว่าคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวคือนายศักดิ์ชัย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นจากศาลอาญาเลขที่ ค.343/2552 ลงวันที่ 23 มิ.ย.2552 เข้าตรวจค้นภายในห้องพักของนายศักดิ์ชัย โดยได้พบตัวนายศักดิ์ชัยพร้อมด้วยกลางทั้งหมดภายในห้องพัก จึงควบคุมตัวมาสอบทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายศักดิ์ชัยกล่าวว่า ผู้โดยสารทั้ง 4 คนได้เรียกให้ไปส่งหลายที่เกิดความรำคาญจึงได้พาไปส่งที่ร้านอาบอบนวดดังกล่าว โดยเมื่อทั้งหมดลงจากรถได้ขับรถออกไปโดยได้เอาทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวดังกล่าวไปด้วย ทั้งนี้ ตนไม่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน เพิ่งมาก่อเหตุแบบนี้เป็นครั้งแรก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป