อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “แรมโบ้อีสาน” คดีหมิ่นอดีต ส.ว.โคราช กล่าวหาจ้างมือปืนลอบยิง ศาลชี้ติชมโดยชอบ เจ้าตัวมาศาลทั้งผ้าเหลือง ยันไม่ร่วมม็อบเสื้อแดง ให้เป็นเรื่องของทางโลก
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำ อ.3784/2550 ที่นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ว.นครราชสีมา เป็นโจทก์ฟ้องนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย เป็นจำเลยในความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 กรณีเมื่อวันที่ 3 ส.ค.50 เวลากลางวัน จำเลยได้ใส่ความโจทก์โดยการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทำนองว่าโจทก์เป็นผู้จ้างวานมือปืนมาลอบยิงจำเลยซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ภรรยาโจทก์จนเกือบเสียชีวิต
คดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นเพียงการคาดคะเน ไม่สามารถยืนยันได้ว่าโจทก์เป็นผู้จ้างวานมือปืนมายิงจำเลย จึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อปกป้องการมีส่วนได้ส่วนเสียของตนเอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ให้ได้รับความเสียหายพิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่าถ้อยคำที่จำเลยกล่าวไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาชอบแล้วศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องด้วยพิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นายสุภรณ์ซึ่งบวชเป็นพระสงฆ์ฉายา “ฐานิสฺสโร” อยู่ที่วัดสิริเฉลียง ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง โดยกล่าวว่าการบวชในครั้งนี้ต้องการทดแทนบุญคุณบุพการีและผู้มีพระคุณ ซึ่งที่ผ่านมามีพี่น้องประชาชนเข้ามาร่วมทำบุญมากพอสมควร รวมทั้งนิมนต์ไปร่วมการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ แต่ตนคงไม่เดินทางไป เนื่องจากอยากให้เป็นเรื่องของทางโลก ตอนนี้และอยากปฏิบัติธรรมให้จิตใจสบายมากกว่า