ตำรวจ สน.ดุสิต ร่วมกับชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว ปะ ฉะ ดะ ไล่จับ 2 ผู้ต้องหาคดีค้างเก่าทำร้ายร่างกายขณะถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.แต่หัวหมออ้างลืมบัตรประชาชนขอไปหยิบแต่ดันกระโดดจากชั้น 2 หลบหนีไป อีกคนอาศัยจังหวะชุลมุนหนีตาม ตามจับตัวมาดำเนินคดีได้ทันควัน
วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ร.ต.ต.สหรัฐ อ่อนทอง รองสว.สส.สน.ดุสิต เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ดุสิต และเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว (ปะ ฉะ ดะ) กว่า 30 นาย นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 ราย บริเวณกรมสรรพาวุธทหารบก ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถจับกุมตัวได้ ทราบชื่อผู้ต้องหาต่อมา คือ นายพุฒิพงศ์ วรรณานิคม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 826/2 ถนน.พระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.และนายสุรเชษฐ์ บุญพูล เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก
ร.ต.ต.สหรัฐ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้นำหมายจับคดีค้างเก่าของศาลอาญา ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเข้าจับกุม นายพุฒิพงศ์ ที่ห้องเช่าภายในซอยสินทรัพย์ ระหว่างนั้นก็พบ นายสุรเชษฐ์ ซึ่งพักอยู่ห้องติดกันกำลังเสพกัญชาอยู่ จึงควบคุมตัวทั้ง 2 มาสอบปากคำที่ สน.โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกผู้ต้องหาใส่กุญแจมือ และมีตำรวจควบคุมตัวอยู่ 2 นาย แต่ นายสุรเชษฐ์ ได้อ้างว่า ลืมบัตรประชาชนไว้ในห้องและเดินเข้าไปหยิบ แต่จู่ๆนายสุรเชษฐ์ กลับกระโดดจากชั้น 2 ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป ระหว่างนั้น นายพุฒิพงศ์ ก็อาศัยช่วงชุลมุนกระโดดจากชั้น 2 หลบหนีไปเช่นกัน
ร.ต.ต.สหรัฐ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงขอกำลังเสริมจากชุดจู่โจม บก.น.1 เพื่อปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ภายในกรมสรรพาวุธทหารบก จากการสอบปากคำนายพุฒิพงศ์ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่าให้การว่า หลังเกิดเหตุได้ไปเสียค่าปรับและมีการถอนหมายจับแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการถอนหมายไปแล้วจริงหรือไม่ ส่วนนายสุรเชษฐ์ให้การว่าทำงานเป็นช่างซ่อมรถ จยย.อยู่ปากซอยสินทรัพย์ และไม่อยากถูกจับจึงพยายามหลบหนี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาหลบหนีการควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ และมียาเสพติดไว้ประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครอง แก่นายสุรเชษฐ์ ส่วน นายพุฒิพงศ์ ได้แจ้งข้อหา หลบหนีการควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจและทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป