ตร.ฝึกแผนเผชิญเหตุวิกฤตในสนามบิน รับสุดยอดผู้นำอาเซียน!

สตช.ฝึกอบรมหน่วยงานความมั่นคง เพิ่มศักยภาพแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินในสนามบิน เตรียมความพร้อมแผนรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ รับมือได้กับทุกเหตุการณ์ เพื่อรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ภูเก็ต เน้นร่วมปฏิบัติงานเป็นทีม ทำให้เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ระบุไว้ในแผนเผชิญเหตุ เป็นที่ยอมรับต่างชาติ

วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ (รอง ผบ.ตร.มก.1) เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดโครงการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำแผนเผชิญเหตุในการบริหารเหตุการณ์ (รักษาความปลอดภัยสนามบิน) โดยมีตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สมุทรปราการ ขอนแก่นและภูเก็ต ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ผู้บังคับกองบิน 41 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ บช.ภ.1, 4, 5, 8, ตชด., บช.ส., บช.ก.และ บช.ศ.เข้าร่วมประชุม

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยสนามบิน เพื่อร่วมมือกันในการกำหนดแนวทาง และวางแผนเผชิญเหตุ ให้มีการบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เมื่อเกิดวิกฤตการณ์จะได้มีทีมบริหารเหตุการณ์ที่ทำงานประสานกันระหว่างหน่วยงาน ซึ่งเชื่อว่าผลที่ได้รับจะทำให้มีแผนเผชิญเหตุที่เป็นระบบ มีทีมบริหารเหตุการณ์เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ จ.ภูเก็ต ในเดือน ต.ค.2552

“เดิมทีแผนเผชิญเหตุของสนามบินมีอยู่แล้ว เป็นแผนรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ซึ่งมีการท่าอากาศยานจะหน่วยงานหลัก ซึ่งเราก็จะหารือกันว่า ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ จะสนับสนุนในส่วนนี้ได้อย่างไร หรือหากมีการชุมนุมปิดล้อมสนามบินตำรวจก็จะเป็นหน่วยงานหลัก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสนับสนุนอย่างไรได้บ้าง ซึ่งเราจะหารือร่วมกันเพื่อจัดทำแผนเผชิญเหตุที่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยสนามบิน” พล.ต.อ.วิเชียร กล่าว

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายในการจัดทำโครงการดังกล่าวนี้ เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานทุกหน่วยที่เข้าร่วมประชุมได้ช่วยกันตรวจสอบ และทบทวนแผนเผชิญเหตุให้มีลักษณะของการบูรณาการในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพไปพร้อมกัน โดยมุ่งเน้นการร่วมปฏิบัติเป็นทีมบริหารเหตุการณ์ ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ตามขั้นตอน และวิธีการที่ระบุไว้ในแผนเผชิญเหตุ เป็นที่ยอมรับของอารยประเทศ สำหรับผู้เข้ารับการการฝึกอบรมในโครงการดังกล่าวมีทั้งสิ้นประมาณ 2,660 คน แบ่งเป็น 4 รุ่น มีระยะการฝึกรุ่นละ 5 วัน โดยสนามบินจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ฝึกวันที่ 29 มิ.ย.-3 ก.ค.สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ฝึกวันที่ 3-7 ส.ค.สนามบินขอนแก่น อยู่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ฝึกวันที่ 10-14 ส.ค.และสนามบินภูเก็ต อยู่ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ฝึกวันที่ 24-28 ส.ค.