จับสาวใหญ่รับจ้างขนยาบ้า อ้างหาเงินรักษาลูก!

ตำรวจสืบสวน บก.น.6 ล่อซื้อจับกุมสาวใหญ่รับจ้างขนยาบ้าให้เอเยนต์ใหญ่ ได้ของกลาง 1.6 หมื่นเม็ด เจ้าตัวอ้างไม่อยากทำแต่จำต้องหาเงินรักษาลูกวัย 4 ขวบเศษที่ป่วยเป็นโรคหอบ อีกรายตำรวจ 191 จับนักค้ายาบ้าเช่นเดียวกัน

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ภานุ เกิดลาภผล พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6.แถลงผลการจับกุมนางกัลยา หรือคำอ่อน ยานะ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 16,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล 6 ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นผู้จำหน่ายยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ จึงวางแผนล่อซื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ผู้ต้องหาต่อรองให้ไปรับของที่เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปล่อซื้อที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยนัดมอบของที่ซาร่าอพาร์ทเมนท์ ถนนสุขเกษม ซอย 7 ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดประเทภ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย

ด้านนางกัลยาให้การรับสารภาพว่า เคยมีอาชีพรับจ้างเก็บลิ้นจี่ในสวนที่เชียงใหม่ และได้รู้จักเจ๊คนหนึ่งอายุ 60 ปี ไม่ทราบชื่อ นามสกุล อาศัยใน กทม. ผ่านทางเพื่อนโดยเจ๊คนดังกล่าวพยายามชักชวนให้ส่งยาบ้ามาตลอดระยะเวลา 4-5 เดือนที่รู้จักกัน แต่ไม่อยากทำ กระทั่งลูกชายคนเล็กอายุ 4 ปี 7 เดือน ป่วยเป็นโรคหอบหืดต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เจ๊ทราบจึงชักชวนส่งยาบ้าเพื่อหาเงินเป็นค่ารักษาลูกชาย โดยให้ค่าขนมัดละ 80,000 บาท จำนวน 8 มัด จึงยอมทำ และทราบเพียงว่ามีการนัดส่งมอบของที่เชียงใหม่ แต่ยังไม่ทันได้ส่งมอบก็มาถูกตำรวจจับเสียก่อน

อีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) นำโดย พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผกก.1 บก.ตปพ. พ.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร สว.งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.ตปพ. จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า คือ 1.นายชัชวาลย์ หรือบอย สวาทภักดี อายุ 22 ปี 2.นายอัษนัย หรือฮัต เหล็กศิริ อายุ 28 ปี 3.นายกฤษฎา หรือป็อป ขาวโชติช่วง อายุ 36 ปี และ 4.นางวรารัตน์ หรือหน่อย เฉลยศิลป์ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 8,230 เม็ด พร้อมของกลาง รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน ชช 3222 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 2483 กรุงเทพมหานคร

นายชัชวาลย์ให้การรับสารภาพว่า เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ในซอยลาดพร้าว 132 (วัดกลาง) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และรู้จักกับนายสุริยา หรือหนุ่ม ซึ่งต้องโทษอยู่ในเรือนจำคลองเปรมเมื่อครั้งที่ต้องโทษเช่นกัน เมื่อพ้นโทษออกมานายสุริยาได้ติดต่อประสานให้ไปรับยาบ้า โดยให้ค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งล่าสุดเพิ่งได้ค่าจ้างเพียง 5,000 บาทเท่านั้น

พล.ต.ต.ฉันวิทย์ รามสูต ผบก.ตปพ.กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าทั้งหมดเป็นเครือข่ายเดียวกันโดยจะประสานจากเครือข่ายในเรือนจำแห่งหนึ่ง และนำมาจำหน่ายในพื้นที่ กทม. และทราบว่านายชัชวาลย์ เป็นผู้ส่งมอบยาบ้าและทำมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงติดตามล่อซื้อและจับกุมได้ ก่อนที่จะขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ พร้อมแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจะควบคุมตัวส่ง บช.ปส.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป