อัยการต่างประเทศยัน “ทักษิณ” เปลี่ยนชื่อไม่เป็นอุปสรรคในการติดตามตัว ระบุหลักการส่งผู้ร้ายข้ามแดนดูที่ตัวบุคคลไม่ใช่ชื่อในหนังสือเดินทาง พร้อมจับโกหก “นพเหล่” ยันทางการฮ่องกง ยังไม่มีหนังสือตอบรับหรือปฏิเสธความร่วมมือมายังอัยการสูงสุด
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ กล่าวถึงการเปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีโทษจำคุกในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการประสานติดตามตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนิการากัว ซึ่งเป็นถิ่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยอยู่ เพราะตามหลักการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะดูที่ตัวบุคคลเป็นสำคัญไม่ได้ดูเพียงชื่อในหนังสือเดินทาง
“ตอนนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเปลี่ยนชื่อเพื่ออะไร แต่หากประเทศที่ให้สัญชาติและอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อตามภาษาของชาตินั้นพร้อมทั้งออกหนังสือเดินทางให้ก็ถือเป็นสิทธิ รัฐบาลไทยจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้เพราะเป็นกิจการภายในประเทศนั้นๆ คงทำได้เพียงยืนยันบุคคลในการร้องขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับโทษ และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างรอให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตอบหนังสือร้องขอทางการทูตว่าจะให้ความร่วมมือส่งตัวกลับมาหรือไม่ เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน” นายศิริศักดิ์ กล่าว
นายศิริศักดิ์ยังกล่าวด้วยว่า ที่นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าประเทศฮ่องกงส่งหนังสือปฏิเสธให้ความร่วมมือส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้กับประเทศไทยถึง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ตามที่ได้ทำคำร้องผ่านทางการทูตไปเพราะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกันนั้น ไม่เป็นความจริง จนถึงขณะนี้อัยการสูงสุด ตนเองหรือคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศที่รับผิดชอบติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ได้รับแจ้งผลอย่างเป็นทางการจากประเทศฮ่องกงแต่อย่างใด
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ กล่าวถึงการเปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีโทษจำคุกในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการประสานติดตามตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนิการากัว ซึ่งเป็นถิ่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยอยู่ เพราะตามหลักการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะดูที่ตัวบุคคลเป็นสำคัญไม่ได้ดูเพียงชื่อในหนังสือเดินทาง
“ตอนนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเปลี่ยนชื่อเพื่ออะไร แต่หากประเทศที่ให้สัญชาติและอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อตามภาษาของชาตินั้นพร้อมทั้งออกหนังสือเดินทางให้ก็ถือเป็นสิทธิ รัฐบาลไทยจะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้เพราะเป็นกิจการภายในประเทศนั้นๆ คงทำได้เพียงยืนยันบุคคลในการร้องขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับโทษ และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างรอให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตอบหนังสือร้องขอทางการทูตว่าจะให้ความร่วมมือส่งตัวกลับมาหรือไม่ เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน” นายศิริศักดิ์ กล่าว
นายศิริศักดิ์ยังกล่าวด้วยว่า ที่นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าประเทศฮ่องกงส่งหนังสือปฏิเสธให้ความร่วมมือส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้กับประเทศไทยถึง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ตามที่ได้ทำคำร้องผ่านทางการทูตไปเพราะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกันนั้น ไม่เป็นความจริง จนถึงขณะนี้อัยการสูงสุด ตนเองหรือคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศที่รับผิดชอบติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ได้รับแจ้งผลอย่างเป็นทางการจากประเทศฮ่องกงแต่อย่างใด