คนร้ายล้วงคองูเห่า เข้าไปฉกทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ มูลค่าหลายหมื่นบาทของ 2 สารวัตรวิทยาการที่เข้าพักในโรงแรมดัง ระหว่างมาอบรมการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ทั้งที่เจ้าตัวยังนอนหลับอยู่ในห้อง ขณะที่อีกคนลงไปกดเงิน แต่ไม่ได้ล็อกประตู
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น.พ.ต.ต.กิตติภูมิ สืบพันธุ์นงค์ สว.วิทยาการ จ.บุรีรัมย์ และ พ.ต.ต.สันติรักษ์ มงคลนำ สว.วิทยาการ จ.อุบลราชธานี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ธงศรี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพักเลขที่ 1108 ชั้น 11 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ที่ผ่านมา
พ.ต.ต.สันติรักษ์ ให้การว่า ตนทั้ง 2 คน ได้เข้ามาอบรมสัมมนาพัฒนาบุคคล บช.ศ.เรื่องการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ที่ทาง บช.ศ.จัดให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเข้าอบรมสัมนา เป็นเวลา 5 วัน โดยได้เข้ามาอบรมที่โรงแรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา และพักอยู่กับ พ.ต.ต.กิตติภูมิ เพียง 2 คนที่ห้อง ซึ่งในแต่ละวันก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ผิดปกติเกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้า ได้เดินลงมากดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ที่ชั้น 1 ของโรงแรม โดยที่ไม่ได้ล็อกประตูไว้ เนื่องจากมี พ.ต.ต.กิตติภูมิ นอนหลับอยู่ในห้อง
พ.ต.ต.สันติรักษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากกดเงินเสร็จ ก็ได้เดินขึ้นไปบนห้องเพื่อที่จะนำเงินไปเก็บ จากนั้นก็พยายามหากระเป๋าสตางค์แต่ก็ไม่พบ จึงได้ปลุก พ.ต.ต.กิตติภูมิ เพื่อสอบถาม ก็ทราบว่า กระเป๋าสตางค์กับกระเป๋าเก็บทรัพย์สินของตนที่วางอยู่บนหัวเตียง และกระเป๋าสตางค์ของ พ.ต.ต.กิตติภูมิ ที่ใส่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงถูกคนร้ายขโมยไปแล้ว
พ.ต.ต.สันติรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์ของตนที่หายไปมี เงินสดประมาณ 2,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น แหวนทองฝังเพชร 1 วง นาฬิกายี่ห้อสยามสวิช 1 เรือน พระสมเด็จบางขุนพรหม 1 องค์ พระหลวงปู่ทวด วัดเจดีย์หลวง ปี 2505 จำนวน 1 องค์ พระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ เนื้อดิน เลี่ยมทอง 1 องค์ พระหลวงพ่อโสธร ปี 2505 จำนวน 1 องค์ เหรียญในหลวงทรงผนวช เนื้อทองฝาบาตร 1 องค์ และเอกสารอีกหลายรายการ ส่วนทรัพย์สินของ พ.ต.ต.กิตติภูมิ ที่หายไปมี เงินสดจำนวน 9,920 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้สอบถามพนักงานในโรงแรม ก็ทราบว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด และนอกจากนี้ที่โรงแรมก็ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ด้วย จึงไม่สามารถที่จะจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้เลย” พ.ต.ต.สันติรักษ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.กิตติภูมิ กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ซึ่งตนเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่เคยเข้าออกภายในโรงแรม เพราะรู้เส้นทางการก่อเหตุและหลบหนีเป็นอย่างดี ส่วนชั้นที่ตนอยู่นั้น ไม่มีบันได้ต้องขึ้นลิฟต์ไปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนคนร้ายอาจจะเดินสำรวจแล้วลองผลักประตูตามห้องต่างๆ ดู เมื่อเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อกจึงเข้าไปลงมือก่อเหตุ ภายหลังตนแจ้งกับทางโรงแรมว่าทรัพย์สินสูญหาย ทางโรงแรมก็ได้เข้ามาสอบถาม แต่ไม่ได้บอกว่าจะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ เพราะต้องรองแจ้งให้ทางเจ้าของโรงแรมทราบเรื่องก่อนที่จะดำเนินการอย่างใดต่อไป ซึ่งตนรู้สึกผิดหวังมาก เนื่องจากโรงแรมใหญ่ขนาดนี้ แต่เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยเบื้องต้นกลับปล่อยปละละเลย
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ของโรงแรมรายหนึ่ง กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินของลูกค้าที่สูญหายไปนั้น หากว่าลูกค้าแจ้งไว้กับทางโรงแรมว่ามีทรัพย์ใดบ้าง ทางโรงแรมก็จะนำเก็บรักษาไว้ให้ และถ้าเกิดทรัพย์หายโรงแรมก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นลูกค้าไม่ได้แจ้งให้ทราบว่ามีทรัพย์สินส่วนตัวใดบ้าง ซึ่งในส่วนนี้จะต้องแจ้งให้กับเจ้าของโรงแรมทราบเสียก่อน
ต่อมา พ.ต.อ.พงษ์ สังขมุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ได้เชิญพนักงานของโรงแรม เจ้าหน้าที่โรงแรม ผู้เสียหาย และพยานแวดล้อมมาสอบปากคำเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
