รวบเกย์หนุ่มแอบอ้างเป็นโมเดลลิ่งหานายแบบ-นางแบบ เลือกเฉพาะเหยื่อวัยรุ่นหน้าตาดี แกล้งทำเป็นตีสนิท ลวงเหยื่อไปทำผม-เสริมสวย ก่อนสบโอกาสที่เหยื่อเผลอฉกเอาโน้ตบุ๊ก-มือถือหนี แต่ไม่รอดเงื้อมมือ ตร.ตามสืบ และจับกุมตัวได้ที่ห้องพัก เผย เพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์ออกมา แถมยังเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.พญาไท รายงานความคืบหน้าการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายคดีสำคัญมายัง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.โดยระบุว่าภายหลัง พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.รับแจ้งเหตุลักทรัพย์เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายใช้กลอุบายล่อลวง นายณัฐพงศ์ เตชะวงศ์ ผู้เสียหาย ขณะเดินอยู่ในห้างเซ็นจูรี่ ถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.มีชายไทยลักษณะคล้ายเกย์ อายุระหว่าง 25-30 ปี เข้ามาตีสนิทชวนคุยอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ก่อนจะฉวยโอกาสผู้เสียหายเผลอลักทรัพย์สิน ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่องหลบหนีไป
จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายณัฐธนันท์ หรือ เอก คุณอุย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 3 ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ปัจจุบันพักที่ 102 เอ.เอ็ม.อพาร์ทเม้นต์ ห้อง 707 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม.จึงขอหมายตรวจค้นห้องพัก พบผู้ต้องหาพร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อแอปเปิล 1 เครื่อง ราคา 35,000 บาท ซึ่งเป็นของผู้เสียหายอยู่ในมือขวา และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง โนเกีย รุ่น N73 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.พญาไท
จากการสอบสวน นายณัฐธนันท์ให้การรับสารภาพว่า ออกตระเวนหาเหยื่อวัยรุ่นหน้าตาดีที่มีโทรศัพท์มือถือตามห้างสรรพสินค้า ก่อนเข้าไปตีสนิทอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งหานายแบบนางแบบ และนักแสดง จากนั้นจะลวงเหยื่อที่หลงเชื่อให้นำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กฝากไว้ที่ร้านอาหาร แล้วพาเหยื่อไปทำผม พร้อมทั้งขอยืมโทรศัพท์มือถือ จากนั้นจะอาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายเผลอหลบหนีไป แล้วย้อนกลับไปเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ฝากไว้ที่ร้านอาหาร ทั้งนี้ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์สร้อยคอทองคำพื้นที่ สน.ทองหล่อ เพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อเดือน ม.ค.2552 นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังยอมรับว่าเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง ได้ทรัพย์สินมากมาย หากผู้ใดสงสัยว่าเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ให้มาชี้ตัวเพื่อดำเนินคดีเพิ่มต่อไป
