“อัศวิน” ลงพื้นที่ติดตามคดีปาหินใน จ.สุพรรณบุรี พร้อมควงผู้เชี่ยวชาญจากกองวิทยาการภาค 1 ร่วมวิเคราะห์ ก่อนรวบรวมข้อมูลประมวลผลอีกครั้ง ปักใจ 3 เหตุ คึกคะนอง-เมาสุรา-เครียด ยัน จะเอาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุคดีปาหินใส่กระจกหน้ารถยนต์ที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า ขณะนี้ตนได้นำผู้เชี่ยวชาญจากกองวิทยาการภาค 1 มาวิเคราะห์ ว่า การขว้างหินน่าจะปามาจากด้านซ้าย หรือขวาของรถยนต์ มีการปาในขณะที่รถวิ่งมาด้วยความเร็วแค่ไหน ระยะการขว้างที่บอกถึงแรงบวกซึ่งเป็นเหตุเป็นผล ก่อนนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลอีกครั้งนอกจากการวิเคราะห์พฤติการณ์การก่อเหตุแล้วก็จะตรวจสอบถึงลักษณะความหนาแน่นของหิน ลักษณะของก้อนหินที่มีสนิมติดอยู่ว่าคนร้ายน่าจะนำมาจากจุดไหน โดยวันเดียวกันนี้ตนจะเดินทางไปประชุมที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้า ทั้งนี้ ส่วนสาเหตุยังคงมุ่งไปที่ 3 ประเด็น คือ เกิดจากความคึกคะนอง ผู้ก่อเหตุมีอาการเมาสุรา หรือเกิดจากความเครียด โดยประเด็นการลอบสังหารนั้นไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะระบุเช่นนั้น
“ที่ผ่านมา ก็มีผู้ให้เบาะแสหลายราย ซึ่งเรามีการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ขอยืนยันว่ากำลังเร่งรัด เพื่อติดตามคนร้ายในคดีนี้ให้ได้ โดยมีตำรวจจากหลายหน่วยทั้งจากกองปราบปราม ชุดสืบสวนภูธรภาค 7 และตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี ต่างลงพื้นที่แบ่งงานกันทำ และมีการประชุมติดตามความคืบหน้าทุกวันอยู่แล้ว” พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีคนร้ายปาหินใส่กระจกหน้ารถ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น.ของวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา บนถนนสายโพธิ์พระยา-อ่างทอง หมู่ 2 ต.โพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายสุรชัย สวัสดี อายุ 36 ปี คนขับ 2.นางสุดารัตน์ เอี่ยมยัง อายุ 34 ปี 3.ด.ญ.เพชรรัตน์ ศรีสุข อายุ 10 ปี 4.ด.ช.ณัฐพล สวัสดี อายุ 4 ปี และ 5.ด.ญ.รุจิรา ศรีสุข อายุ 1 ปี 6 และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้แก่ นางภาพิมล เอี่ยมยัง อายุ 59 ปี โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ทั้งนี้ ครอบครัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีรับสั่งผ่าน ท่านผู้หญิง จรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ รับเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมป์ โดยให้นำคนเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์