“ธานี” ฟิตเรียกทีมสืบสวนคดี 7 ตุลา รายงานความคืบหน้า ชี้ปัญหาบุคลากรมากแต่ไม่ทำงาน ขอดูสำนวนคดี “น้องโบว์-สารวัตรจ๊าบ-ภาพรวม 7 ตุลา” ก่อนสั่งเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่อ บอกคดีดอนเมือง-สุวรรณภูมิ “ท่านวุฒิ” ดูแลเหมือนเดิม คาดหากคำให้การแต่ละสำนวนสมบูรณ์พร้อมส่งอัยการอีก 14 คดีเร็วๆ นี้
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนสืบสวนคดี 7 ต.ค.2551 ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ได้เรียกพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องในคดี 7 ต.ค.2551 มาประชุม เพื่อตรวจความคืบหน้าของคดี เนื่องจากพึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนสืบสวนแทน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยคดีทั้งหมดมี 19 คดี ทำเสร็จส่งอัยการไปแล้ว 2 คดี เหลืออีก 17 คดี รวมถึงคดีที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จึงได้สั่งการให้ผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละคดีดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จต่อไป แต่ยกเว้นคดี พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือ “สารวัตรจ๊าบ” ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินบุรีรัมย์, แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดบุรีรัมย์ และหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ ภาคอีสาน ที่สละชีพในเหตุระเบิดรถยนต์จี๊ปเชอโรกี บริเวณหน้าพรรคชาติไทย ถนนพิชัย กรุงเทพฯ ในเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ 2551 คดี น.ส.อังคณา ประดับปัญญาวุฒิ อายุ 27 ปี (น้องโบว์) ที่เสียชีวิตในวันสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา และคดีภาพรวมวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานที่ต้องรอการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ขอเวลาในตนกลับไปอ่านสำนวนทั้ง 3 คดีก่อน
“เท่าที่วิเคราะห์ปัญหาที่มีอยู่ในขณะนี้น่าจะเป็นเรื่องการบริหารงานบุคคล ที่มีชื่อผู้ปฏิบัติงานในคณะพนักงานสอบสวนสืบสวนเยอะ แต่มีคนทำงานน้อย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนชุดนี้ต้องทำคดียึดสนามบินดอนเมืองด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า คดีดังกล่าวไม่อยู่ในความรับผิดชอบ แต่ก่อนหน้านี้เกิดความเข้าใจผิดว่าต้องดำเนินการด้วย เนื่องจากการแบ่งมอบหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา โดยให้ตนรับผิดชอบ บช.น.แล้วจะต้องทำด้วยเพราะสนามบินดอนเมืองก็อยู่ในพื้นที่นครบาล แต่ปรากฎว่าสำนวนคดีสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิหัวหน้าพนักงานสอบสวนสืบสวนยังคงเป็น พล.ต.ท.วุฒิ เหมือนเดิม เปลี่ยนความรับผิดชอบเฉพาะคดีพันธมิตรฯ เท่านั้น
พล.ต.อ.ธานี กล่าวอีกว่า กรณี 7 ต.ค. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.เป็นผู้กล่าวหา ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเชิญมาสอบสวนเพิ่มเติม แต่คงไม่มีปัญหาในเรื่องที่ พล.ต.ท.สุชาติ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในเรื่องเดียวกัน เนื่องจากเป็นคนละส่วน คดีที่ตำรวจทำเป็นคดีอาญาของ ป.ป.ช. เป็นเรื่องความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนชุดนี้ได้พยายามเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุดอยู่แล้ว แต่ที่ติดขัดอยู่คือ คำให้การเพิ่มเติมของผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ส่งให้พนักงานสอบสวน คาดว่าในเร็วๆ นี้คดีอีก 14 คดีก็จะสามารถส่งอัยการได้