“ธานี” เผยพรุ่งนี้จะประชุมติดตามความคืบหน้าคดีพันธมิตรฯ และเร่งจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล ขานรับนโยบาย “เทพเทือก” พร้อมเดินหน้าปราบปรามพนันตู้ม้าในพื้นที่นครบาล อีก 2 วันประชุมผู้ใต้บังคับบัญชาติวเข้มแนวทางปฏิบัติกวาดล้างให้เบาบางลง หลังกระทรวงยุติธรรมโหมโรงออกมาติงการทำงาน
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกระทรวงยุติธรรมออกมาระบุว่าในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการลักลอบเปิดตู้ม้าเพิ่มมากขึ้นว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.นี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายป้องกันและปราบปรามของกองบัญชาการตำรวจนครบาลมาให้แนวทางการปฏิบัติ แต่ไม่ถึงขั้นย้ำให้ปราบปรามให้หมดสิ้นไป ซึ่งเห็นว่าพื้นที่ใดไม่สามารถทำได้ก็จะไม่มีการคาดโทษพื้นที่ที่ยังมีการลักลอบเปิดอยู่ เนื่องจากมีคำสั่งลงโทษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติวางอยู่แล้ว และเห็นว่าผู้ที่ลักลอบเล่นการพนันก็ไม่สามารถห้ามได้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจกพบก็ต้องจับกุม
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุให้ ตร.จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลนั้น พล.ต.อ.ธานี ยืนยันว่า ได้มีการทำบัญชีรายชื่อมานานแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) จะมีการเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีกลุ่มผุ้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งทางผู้บัญชาการนครบาลจัดทำรายชื่อสืบจับแล้วก็จะเร่งจับกุมต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเร่งรัดเพื่อดำเนินคดีต่อกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวานที่ผ่านมา (25 พ.ค.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้ทำการประกาศสืบจับเหลือง-แดง โดยประกาศสืบจับดังกล่าว แบ่งเป็น 2 แผ่น คือ ประกาศสืบจับสีเหลือง และประกาศสืบจับสีแดง เป็นประกาศสืบจับบุคคลที่ไม่ทราบชื่อจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละคนละมีรางวัลนำจับรายละ 50,000 บาท แบ่งเป็นประกาศสืบจับสีเหลือง เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ จำนวน 20 ราย ประกาศสืบจับสีแดง จำนวน 29 ราย ซึ่งสามารถจับกุมได้แล้วจำนวน 2 ราย
ขณะที่การดำเนินการเพื่อเร่งรัดดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ และบรรดาแกนนำ เป็นที่น่าสังเกตว่าได้เกิดขึ้นหลังจากที่พันธมิตรฯ มีมติตั้งพรรคการเมือง
ในวันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)ในฐานะโฆษกตร. กล่าวถึง คดีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกปิดล้อมรัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม ว่า กรณีที่คดีนี้มีการเปลี่ยนหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนถึง 4 คน ตั้งแต่พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. กระทั่งมาเป็นพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. นั้น เชื่อว่าเป็นการเปลี่ยน เพื่อความเหมาะสมหลังจากตร.เปลี่ยนการมอบหมายหน้าที่การงาน ซึ่งเดิมที่พล.ต.อ.จงรัก รับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) จึงมอบหมายให้ควบคุมคดีนี้
ต่อมาเมื่อเปลี่ยนให้ พล.ต.อ.ธานี รับผิดชอบพื้นที่ บช.น. จึงได้ให้มาคุมคดีนี้แทน ซึ่งพล.ต.อ.ธานี ดูแลหลายคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.น.อยู่แล้ว สำหรับกรณีที่พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผบ.ตร.ยกเลิกการเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้นั้น เป็นไปตามความเหมาะสม เนื่องจากพล.ต.ท.วุฒิ รับผิดชอบพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ไม่ได้ดูแลพื้นที่ บช.น. จึงรับผิดชอบ แต่เพียงคดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เกิดในพื้นที่ภ.1 เท่านั้น