คนร้ายรูปร่างผอมไม่กลัวติดคุก แถมไม่กลัวนรก! ใช้ดาบปลายปืนงัดแงะตู้รับบริจาคสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ภายในโรงอาหาร โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เงินไปบางส่วน รปภ.มาเจอรีบเผ่นหนีเงินยังตกค้างเหลืออยู่ประมาณหมื่นบาท ตำรวจกำลังเร่งตามตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 04.30 น.ร.ต.ท.อำนาจ ศรีคง ร้อยเวร สน.พญาไท รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ตู้รับบริจาค บริเวณโรงอาหารอาคารวิจัยและสวัสดิการ ภายในโรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในโรงอาหาร ใต้อาคารวิจัยและสวัสดิการของโรงพยาบาล โดยสภาพพื้นที่มีประตูกระจกและหน้าต่างรอบด้าน เจ้าหน้าที่พบตู้ไม้ ขนาดความกว้าง 8 นิ้ว สูง 12 นิ้ว สำหรับหยอดบริจาคเงินทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ณ บ้านหนองประโยชน์ ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา มีร่อยรอยถูกงัดที่แม่กุญแจ โดยคนร้ายสามารถนำเงินไปได้บางส่วนและยังมีเงินหลงเหลืออยู่ประมาณ 10,000 บาท
ส่วนในที่เกิดเหตุพบแบงก์ 20 บาท ตกอยู่ประมาณ 4-5 ใบ และดาบปลายปืนที่ใช้ในราชการทหาร ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะนำมาใช้เป็นอุปกรณ์งัดแงะ หล่นอยู่ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายไพโรจน์ เจริญทรัพย์ เจ้าหน้าที่ รปภ.ให้การว่า ปกติที่โรงอาหารแห่งนี้จะปิดทำการประมาณ 18.00 น.ของทุกวัน โดยแม่ค้าจะปิดเฉพาะประตูกระจกเท่านั้น ส่วนหน้าต่างจะเปิดไว้ระบายกลิ่นอับ ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.45 น.ขณะที่ตนกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงอาหาร และกำลังจะไขกุญแจเปิดประตูให้กับร้านค้าที่มาส่งของ
ปรากฏว่า พบคนร้ายรูปร่างผอม สูงประมาณ 160 ซม.เสื้อแจ๊กเก็ต นุ่งกางเกงยีนส์ กำลังจะยกตู้เงินบริจาคไป จึงได้วิทยุสื่อสารไปบอกเพื่อน รปภ.ด้วยกันให้รีบเข้ามาช่วยกันล้อมจับคนร้าย แต่คนร้ายก็ไหวตัวทันรีบโกยเงินที่งัดได้วิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังอาคาร ทำให้ลืมทำดาบปลายปืนตกไว้ในที่เกิดเหตุ ตนพยายามวิ่งติดตามไปแล้ว แต่ก็ถูกคนร้ายชักปืนแบบออโตเมติก ขึ้นมากระชากลำสไลด์ขู่ จนตนต้องหยุด ส่วนคนร้ายวิ่งไปโบกรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มฉ 4310 กทม.หลบหนีไปทางถนนโรคัลโร้ด เลียบทางรถไฟ ได้หวุดหวิด ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 3 วันก่อน โดยคนร้ายได้แอบเข้ามาในช่วงเวลาเดียวกันก่อนยกตู้บริจาคของมูลนิธิเพื่อการกุศล ซึ่งตั้งอยู่ใต้อาคาร 1 หลบหนีไปลอยนวล” นายไพโรจน์ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.อำนาจ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บลายนิ้วแฝงในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลประวัติอาชญากร ก่อนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ รปภ.ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เพื่อหาเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป