จับยาบ้าซุกถุงกาแฟใส่ถุงหูหิ้วเซเว่นฯ เดินถือของกลางที่สาธารณะ

ปส.แถลงจับนักค้ายาเสพติด 2 ราย พบผู้ต้องหาขนส่งของกลางรูปแบบใหม่ นำยาบ้าซุกซ่อนไว้ในถุงกาแฟและครีมเทียมยี่ห้อดัง ก่อนใส่ถุงหู้หิ้วของเซเว่นฯ เดินถือของกลางในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ


วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต. พุทธิชาต เอกฉันท์ ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.เชิดชาย เสขะนันทน์ รอง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ. ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมกันแถลงการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 2 ราย รายแรก นายเนติพงศ์ หรือก่อ เนติธรรมรัตน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 6 ต.ม่วงใหญ่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 109 ถุง 21,800 เม็ด พร้อมของกลางถุงกาแฟ และครีมเทียม รวม 7 ถุง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมบัตร ATM จำนวน 1 ใบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายก่อ ก่อนจะจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี

พล.ต.ต.พุทธิชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหา ซึ่งพฤติกรรมในการขนส่งยาของผู้ต้องหารายนี้จะทำการขนยาบ้าโดยการซุกซ่อนไว้ในถุงกาแฟและครีมเทียมยี่ห้อดัง จากนั้นนำใส่ไว้ในถุงหู้หิ้วของเซเว่นฯ อีกชั้นหนึ่งเพื่อนำมาส่ง ซึ่งหากมองจากภายนอกจะไม่สามารถรู้ได้ว่าเลยว่ามียาบ้าซ่อนอยู่ เนื่องจากผู้ต้องหาจะเดินถือของกลางในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย ประกอบกับถุงกาแฟที่บรรจุยาบ้านั้นถูกซีลปิดเอาไว้อย่างดีไม่มีร่องรอยการแกะถุง ซึ่งนับว่าเป็นการขนส่งยาบ้าที่แยบยลเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากผลการจับกุมที่ผ่านมานั้นพบไม่มากนัก ต้องใช้วิธีการตรวจสอบอย่างละเอียด

พล.ต.ต.พุทธิชาติ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายก่อรับสารภาพว่าทำมาแล้ว 3 ครั้ง โดยจะไปรับยาบ้ามาจากประเทศลาว จากนั้นจะนำรถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่สนามบินในจังหวัดเชียงราย แล้วขึ้นเครื่องบินนำยามาส่งที่กรุงเทพฯ ส่วนเรื่องการแพกยาบ้าไว้ในถุงกาแฟและครีมเทียมนั้นไม่มีส่วนรู้เห็น และในการรับยามาแต่ละครั้งจะไม่เกิน 20,000 เม็ด

อีกรายเจ้าหน้าที่แถลงผลการจับกุม นางฉวีวรรณ หรือนิด นาคธร อายุ 35 ปี อาชีพค้าขาย บ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 9 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 762 เม็ด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณชั้นล่างตึกอำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี อ.เมือง จ. ราชบุรี โดย พล.ต.ต.พุทธิชาต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางฉวีวรรณได้ขณะที่เดินทางไปเยี่ยมนายอดิศร หรือเลี้ยง สามีที่โรงพยาบาล ซึ่งสามีติดคุกในคดียาเสพติดอยู่ที่เรือนจำกลางเขาบิน แต่สามีจะต้องมาตรวจสุขภาพที่ รพ.ทุกเดือน จึงมีการนัดส่งยากันที่ รพ.ดังกล่าว

จากการสอบสวนนางฉวีวรรณให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนทำอาชีพค้าขายและเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ระหว่างที่ไปเยี่ยมสามีที่เรือนจำได้รู้จักกับเพื่อนสามีชื่อนายพงษ์ จากนั้นนายพงษ์จึงได้ว่าจ้างให้ตนไปรับยาบ้าจากนางสุ ที่หมู่บ้านเศรษฐกิจย่านบางแค โดยให้ค่าจ้าง 30,000 บาท จากนั้นเมื่อสามีและนายพงษ์มาตรวจโรคที่ รพ.ก็ให้นำมาส่งให้ โดยจะซุกซ่อนยาบ้าไว้ในทวารหนักเพื่อนำกลับไปให้นายพงษ์ขายในเรือนจำ

พล.ต.ต.พุทธิชาติกล่าวว่า การจับกุมนางฉวีวรรณ เจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจาก 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย บก.ปส.3 ป.ป.ส.7 และผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน ซึ่งให้ความร่วมมือมาตลอดจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีและจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลหาเครือข่ายรายใหญ่ต่อไป