ตำรวจลุมพินีตามรวบอดีตผู้จัดการฝ่ายบุคคลชาวไอร์แลนด์เหนือก่อเหตุยักยอกเงินปันผล-เงินเดือนพนักงานของบริษัทตัวเองที่ดูไบ จำนวนห้าพันกว่าล้านบาทเข้ากระเป๋าตัวเองแล้วหลบหนีไปซ่อนตัวตามประเทศต่างๆ ในเอเชีย นานกว่า 8 เดือน สุดท้ายแอบบินมาเยี่ยมเมียในไทยเลยโดยซิวจนได้ แต่เจ้าตัวยังปากแข็งไม่มีส่วนร่วมก่อเหตุ
เมื่อเวลา 22.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายไมเคิล ไบรอัน สมิธ อายุ 46 ปี สัญชาติไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาทีก่อคดียักยอกเงินในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่หลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยสุขุมวิท 4 หรือซอยนานา แขวงและเขตคลองเตย
พล.ต.ต.โชคชัย เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางการของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประสานมายังสำนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุดของไทยให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคล ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในกรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นก็ได้สมคบกับพรรคพวกอีก 2-3 ราย ทำการยักยอกเงินปันผลและเงินเดือนของพนักงานในของบริษัทดังกล่าวเข้าบัญชีตัวเองเป็นเงินจำนวนกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดินทางไปยังประเทศต่างๆ เช่น ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย เป็นเวลานานกว่า 8 เดือน ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ได้ประสานไปยังสำนักงานอัยการของประเทศต่างๆ และตำรวจสากล ให้ช่วยจับกุมผู้ต้องหา
โดยหลังจากนั้น ตำรวจสากลของประเทศสิงคโปร์สืบทราบว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมภรรยาชาวไทย และพักอาศัยอยู่ย่านซอยสุขุมวิท 4 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงกระจายกำลังกันออกติดตามตลอด จนกระทั่งเวลา 21.00 น.วันนี้ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาเอาไว้ได้ที่บริเวณดังกล่าว
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมอยู่ในขบวนการก่อเหตุดังกล่าว โดยขั้นตอนต่อจากนี้ทางตำรวจจะส่งตัวผู้ต้องหาให้สำนักงานอัยการสูงสุด จากนั้นก็จะส่งให้ศาลพิจารณาดำเนินการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อไป และขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่จะไม่ยอมให้ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของคนร้ายหลบหนีข้ามชาติเป็นอันขาด