ร้อยเวร สน.บางเขน นำตัวชายเมาสุราขับรถชนคนข้ามถนน ขึ้นรถตราโล่ของตำรวจไปสอบปากคำที่โรงพัก ระหว่างทางเจอรถเสียจึงลงไปช่วย ทิ้งชายเมาสุราไว้ในรถ หันมาอีกทีถูกขโมยรถหนีไปแล้ว ตำรวจต้องอาศัยรถกู้ภัยตาม สุดท้ายไม่รอดชนรถที่จอดอยู่ข้างทางแจ้งสกัดจับได้
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 00.10 น. ร.ต.ท.วชิรวิทย์ การวี ร้อยเวร สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนคนเดินเท้าได้รับบาดเจ็บ บริเวณซอยรามอินทรา 39 แขวงอนุสาวรีย์ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ที่เกิดเหตุพบ นายสามารถ เรืองเกษวิทย์ อายุ 36 ปี ประกอบอาชีพช่างไฟฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.5 ต.ป่าอ้อ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี อยู่ในสภาพเมาสุรา ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน ทะเบียน กธธ 216 อุทัยธานี จอดอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสามารถขึ้นรถกระบะทะเบียนตราโล่ 44923 เพื่อนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.บางเขน โดยให้นั่งบริเวณแค็บด้านหน้ารถ แต่ระหว่างทางขณะที่ขับมาถึงสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า มีรถของประชาชนจอดเสียอยู่เจ้าหน้าที่จึงได้ลงจากรถไปให้การช่วยเหลือโดยทิ้งนายสามารถเอาไว้บนรถเพียงลำพัง ทำให้นายสามารถอาศัยจังหวะนั้นขับรถของตำรวจหลบหนีมุ่งหน้าไปบนถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอความช่วยเหลืออาศัยรถของนายสวง งามบุญแถม กู้ภัยอินทรา 01 ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามนายสามารถ จนกระทั่งสามารถสกัดจับตัวได้บริเวณสวนหย่อมใต้ทางด่วนวิภาวดี
นายสวงกล่าวว่า ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า มีตำรวจ 2 นายเดินมาขอความช่วยเหลือให้ติดตามผู้ต้องหาที่ขับรถตำรวจหนีไป ตนและตำรวจจึงขับรถมิตซูบิชิ ไทรทัน ทะเบียน ถจ 5440 กทม.ซึ่งเป็นรถของตนขับตามไป โดยระหว่างทางก็พยายามขับประกบรถตำรวจที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนี แต่ผู้ต้องหาก็หักรถมาชนจนรถตนเสียหลักทำให้ตามไม่ทัน จึงวิทยุขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัย และ อปพร.เขตจตุจักร ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ ระหว่างที่ผู้ต้องหาขับหลบหนีได้ขับรถเซไปมาจนไปชนต้นไม้ข้างทาง และรถแท็กซี่จนได้รับความเสียหาย จากนั้นก็ขับมุ่งหน้าไปทางถนนวิภาวดี จนกระทั่งขับไปชนรถกระบะนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน ทะเบียน นม 646 นครราชสีมา ของนายประเสริฐ บัวชม อายุ 56 ปี ที่จอดอยู่บริเวณสวนหย่อมใต้ทาง จนนายประเสริฐได้รับบาดเจ็บที่ขา
จากการสอบถามนายประเสริฐกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาจากถนนวิภาวดี และแวะกินก๋วยเตี๋ยวบริเวณสวนหย่อมใต้สะพานรัชวิภา จากนั้นก็ขึ้นรถเพื่อจะขับกลับบ้านในย่านคลองเตย แต่ฝนตกหนักเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงนั่งในรถเพื่อรอให้ฝนซา จนกระทั่งนายสามารถขับรถตำรวจพุ่งมาชนบริเวณที่นั่งด้านซ้ายของรถอย่างจัง ตนรู้สึกตกใจมาก ทั้งตนและนายสามารถต่างก็กระโจนออกมาจากรถเนื่องจากเกรงว่ารถจะระเบิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นจึงเข้ามาควบคุมตัวนายสามารถไว้ได้ในที่สุด
ด้าน ร.ต.ท.วชิรวิทย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้ต้องหารายนี้มีอาการเมาสุรามากและได้ก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนประชาชนที่เดินข้ามถนน เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกระบะตราโล่ของตำรวจเพื่อไปสอบปากคำที่โรงพัก โดยให้นั่งแค็บด้านหน้า ส่วนตนนั่งคู่กับคนขับ เมื่อขับรถมาถึงบริเวณสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า พบว่ามีรถจอดเสียอยู่ ตนกับตำรวจที่มาด้วยกันจึงลงจากรถไปช่วยโดยตนไม่ได้ใส่กุญแจมือนายสามารถเนื่องจากยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ขับรถชนคน ขณะนั้นตนทิ้งให้นายสามารถอยู่บนรถตำรวจเพียงคนเดียว ทำให้นายสามารถปีนมาบริเวณที่นั่งคนขับและขับรถหลบหนีไป ตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยที่จอดรถปฏิบัติหน้าที่บริเวณนั้นเพื่อติดตามผู้ต้องหา เมื่อจับกุมตัวได้จึงนำตัวมาตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็พบว่ามีปริมาณมากถึง 165 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ร.ต.ท.วชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า รถกระบะตราโล่ที่นายสามารถขับหนีไปนั้นได้รับความเสียหายด้านหน้ารถพังยับ และนายสามารถได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อยเพราะถูกแรงกระแทกจากการขับรถชน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายสามารถว่าขับขี่รถโดยขณะเมาสุรา ส่วนข้อหาอื่นต้องรอการสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อนจึงสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ ส่วนกรณีขับรถเฉี่ยวชนต้นไม้ และรถคันที่สัญจรอยู่บนท้องถนนอยู่ในพื้นที่ของ สน.พหลโยธิน จึงได้ประสานร้อยเวร สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีแล้ว ซึ่งได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้นำตัวนายสามารถไปควบคุมตัวไว้ที่ห้องขัง สน.บางเขน เพื่อให้สงบสติอารมณ์และหายจากอาการเมาสุราก่อน เพื่อรอสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 00.10 น. ร.ต.ท.วชิรวิทย์ การวี ร้อยเวร สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนคนเดินเท้าได้รับบาดเจ็บ บริเวณซอยรามอินทรา 39 แขวงอนุสาวรีย์ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ที่เกิดเหตุพบ นายสามารถ เรืองเกษวิทย์ อายุ 36 ปี ประกอบอาชีพช่างไฟฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.5 ต.ป่าอ้อ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี อยู่ในสภาพเมาสุรา ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน ทะเบียน กธธ 216 อุทัยธานี จอดอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสามารถขึ้นรถกระบะทะเบียนตราโล่ 44923 เพื่อนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.บางเขน โดยให้นั่งบริเวณแค็บด้านหน้ารถ แต่ระหว่างทางขณะที่ขับมาถึงสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า มีรถของประชาชนจอดเสียอยู่เจ้าหน้าที่จึงได้ลงจากรถไปให้การช่วยเหลือโดยทิ้งนายสามารถเอาไว้บนรถเพียงลำพัง ทำให้นายสามารถอาศัยจังหวะนั้นขับรถของตำรวจหลบหนีมุ่งหน้าไปบนถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอความช่วยเหลืออาศัยรถของนายสวง งามบุญแถม กู้ภัยอินทรา 01 ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามนายสามารถ จนกระทั่งสามารถสกัดจับตัวได้บริเวณสวนหย่อมใต้ทางด่วนวิภาวดี
นายสวงกล่าวว่า ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า มีตำรวจ 2 นายเดินมาขอความช่วยเหลือให้ติดตามผู้ต้องหาที่ขับรถตำรวจหนีไป ตนและตำรวจจึงขับรถมิตซูบิชิ ไทรทัน ทะเบียน ถจ 5440 กทม.ซึ่งเป็นรถของตนขับตามไป โดยระหว่างทางก็พยายามขับประกบรถตำรวจที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนี แต่ผู้ต้องหาก็หักรถมาชนจนรถตนเสียหลักทำให้ตามไม่ทัน จึงวิทยุขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัย และ อปพร.เขตจตุจักร ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ ระหว่างที่ผู้ต้องหาขับหลบหนีได้ขับรถเซไปมาจนไปชนต้นไม้ข้างทาง และรถแท็กซี่จนได้รับความเสียหาย จากนั้นก็ขับมุ่งหน้าไปทางถนนวิภาวดี จนกระทั่งขับไปชนรถกระบะนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน ทะเบียน นม 646 นครราชสีมา ของนายประเสริฐ บัวชม อายุ 56 ปี ที่จอดอยู่บริเวณสวนหย่อมใต้ทาง จนนายประเสริฐได้รับบาดเจ็บที่ขา
จากการสอบถามนายประเสริฐกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาจากถนนวิภาวดี และแวะกินก๋วยเตี๋ยวบริเวณสวนหย่อมใต้สะพานรัชวิภา จากนั้นก็ขึ้นรถเพื่อจะขับกลับบ้านในย่านคลองเตย แต่ฝนตกหนักเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงนั่งในรถเพื่อรอให้ฝนซา จนกระทั่งนายสามารถขับรถตำรวจพุ่งมาชนบริเวณที่นั่งด้านซ้ายของรถอย่างจัง ตนรู้สึกตกใจมาก ทั้งตนและนายสามารถต่างก็กระโจนออกมาจากรถเนื่องจากเกรงว่ารถจะระเบิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นจึงเข้ามาควบคุมตัวนายสามารถไว้ได้ในที่สุด
ด้าน ร.ต.ท.วชิรวิทย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้ต้องหารายนี้มีอาการเมาสุรามากและได้ก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนประชาชนที่เดินข้ามถนน เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกระบะตราโล่ของตำรวจเพื่อไปสอบปากคำที่โรงพัก โดยให้นั่งแค็บด้านหน้า ส่วนตนนั่งคู่กับคนขับ เมื่อขับรถมาถึงบริเวณสะพานข้ามแยกลาดปลาเค้า พบว่ามีรถจอดเสียอยู่ ตนกับตำรวจที่มาด้วยกันจึงลงจากรถไปช่วยโดยตนไม่ได้ใส่กุญแจมือนายสามารถเนื่องจากยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ขับรถชนคน ขณะนั้นตนทิ้งให้นายสามารถอยู่บนรถตำรวจเพียงคนเดียว ทำให้นายสามารถปีนมาบริเวณที่นั่งคนขับและขับรถหลบหนีไป ตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยที่จอดรถปฏิบัติหน้าที่บริเวณนั้นเพื่อติดตามผู้ต้องหา เมื่อจับกุมตัวได้จึงนำตัวมาตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็พบว่ามีปริมาณมากถึง 165 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ร.ต.ท.วชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า รถกระบะตราโล่ที่นายสามารถขับหนีไปนั้นได้รับความเสียหายด้านหน้ารถพังยับ และนายสามารถได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อยเพราะถูกแรงกระแทกจากการขับรถชน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายสามารถว่าขับขี่รถโดยขณะเมาสุรา ส่วนข้อหาอื่นต้องรอการสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อนจึงสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ ส่วนกรณีขับรถเฉี่ยวชนต้นไม้ และรถคันที่สัญจรอยู่บนท้องถนนอยู่ในพื้นที่ของ สน.พหลโยธิน จึงได้ประสานร้อยเวร สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีแล้ว ซึ่งได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้นำตัวนายสามารถไปควบคุมตัวไว้ที่ห้องขัง สน.บางเขน เพื่อให้สงบสติอารมณ์และหายจากอาการเมาสุราก่อน เพื่อรอสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป