รวบทันควันรปภ.ขี้เหล้าเมาจี้แท็กซี่ แต่เหยื่อสู้เลยยิงใส่ปางตาย

สอง รปภ.ขี้เหล้า นั่งก๊งเหล้าแต่หัววันจนเมาได้ที่ก่อนจะโบกแท็กซี่ไปหาเพื่อนแถวสุวินทวงศ์ ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินติดตัวทั้งคู่ ด้วยความเมาเลยบอกทางผิดๆ ถูกๆ จนหลงทาง ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลยชักลูกซองขึ้นมาจี้ชิงทรัพย์ แต่โชเฟอร์ดันสู้เลยยิงใส่คอไป 1 นัด อาการปางตาย ก่อนแยกย้ายกันหนี ตำรวจกระจายกำลังปิดล้อมทันที มาตามรวบได้ 1 คน ขณะกำลังว่ายน้ำหนี

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (9 พ.ค.) พ.ต.ท.กำจัด ชัยนอก พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ฉลองกรุง รับแจ้งมีเหตุโชเฟอร์แท็กซี่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์และถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณด้านหน้า หจก.อ.สแตนเลส ถนนซอยท่าเรือ (คุ้มเกล้า 16) แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม.จึงรายงานให้ผ้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.ท.ชวิน เกิดสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ฉลองกรุง กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนนกล้าง 2 ช่องทางค่อนข้างเปลี่ยว เจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีส้ม ของสหกรณ์บวรแท็กซี่ หมายทะเบียน ทว-305 กทม.จอดอยู่ด้านหน้าร้านดังกล่าวในสภาพกระจกรถฝั่งคนขับถูกเปิดทิ้งไว้ ส่วนภายในห้องโดยสารมีคราบเลือดติดอยู่ที่เบาะคนขับจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนปืนลูกซองตกอยู่จำนวน 5 เม็ด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกส่งไปโรงพยาบาลลาดกระบัง ทราบชื่อต่อมาคือ นายจำปี การพันธ์ อายุ 44 ปี อยูบ้านเลขที่ 92 หมู่ 9 ต.ชุมตาบุง กิ่ง อ.แม่วงศ์ จ.นครสวรรค์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าที่ลำคอฝั่งขวา กระสุนลูกปรายเฉียดไปถูกแขนซ้ายจำนวน 1 นัด อาการสาหัส แพทย์ต้องทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวน นายบุญงาม ดีจริง อายุ 36 ปี ช่างเชื่อมของ หจก.อ.สแตนเลส ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังทำงานอยู่ในร้านก็สังเกตเห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับแบบไหลเอื่อยๆ มาจากกลางซอย จากนั้นก็มาจอดรถที่หน้าร้าน ก่อนที่โชเฟอร์จะเปิดกระจกโผล่หน้าออกมาร้องขอความช่วยเหลือในสภาพเลือดโชก โดยโชเฟอร์บอกตนว่าถูกคนร้ายชายวัยรุ่น 2 คนใช้ปืนยิงแล้วชิงทรัพย์เป็นเงินส จำนวน 3,100 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง หลบหนีไป ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังปิดล้อมจุดเกิดเหตุและสถานที่ใกล้เคียงเอาไว้ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ 1 คน ขณะกำลังว่ายน้ำหนีอยู่ในลำคลองใกล้สุเหร่าบึงขวางคลอง 3 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร ทราบชื่อต่อมาคือ นายบรรเจิด อินหาดกรวด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.สะพานคลี่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก อยู่ในสภาพมึนเมาสุรา พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้น เบอร์ 20 เครื่องกระสุนปืน 2 นัด โทรศัพท์มือถือและเงินสดทั้งหมดของผู้เสียหาย จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ฉลองกรุง

จากการสอบสวนนายบรรเจิดให้การว่า ปัจจุบันตนเป็น รปภ.ของบริษัท พีทเมคเกอร์ จำกัด เข้าเวรอยู่ในหมู่บ้านเทอเรส ย่านซอยลาดพร้าว 71 โดยก่อนเกิดเหตุ ตนกับนายสุธรรม ไม่ทราบนามสกุล เพื่อน รปภ.อีกคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ 3 วัน นั่งดื่มเหล้าภายในห้องพักย่านลาดพร้าว พอเมาได้ที่ก็ชวนกันไปหาเพื่อนย่านสุวินทวงศ์ โดยโบกรถแท็กซี่ ของผู้บาดเจ็บจากบริเวณหน้าห้องพัก ทั้งๆ ที่ต่างคนต่างก็ไม่มีเงินติดตัว จากนั้นตนก็ชี้บอกทางมาตลอดเพราะโชเฟอร์ไม่ชำนาญเส้นทาง

“ผมชี้บอกทางด้วยความเมาจนพากันหลงเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุ ผมไม่รู้จะทำอย่างไร เลยตัดสินใจชักอาวุธปืนที่พกมาด้วยขึ้นมาจี้โชเฟอร์ แต่เขาพยายามขัดขืนจนต้องยิงใส่ไป 1 นัด ก่อนล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบเงินกับโทรศัพท์ของเขา วิ่งหนีลงจากรถมา แต่ก็มาถูกจับกุมจนได้ ส่วนนายสุธรรมที่แยกย้ายกันหนีก็ไม่รู้ว่าไปหลบไปอยู่ที่ไหน” นายบรรเจิด ให้การ

ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันชิงทรัพย์ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร กับแก่นายบรรเจิด พร้อมทั้งจะสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวนายสุธรรม ผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป