รวบแล้ว หนุ่มวิศวกรฆ่าโหด 3 ศพ เมีย-ลูก-น้องเขย หลังหนีกบดานบางแสน สารภาพบันดาลโทสะ แค้นเมียแอบมีกิ๊กฝรั่ง เอาปืนตั้งใจมายิงกิ๊กเมียแต่ไม่พบ พบแต่เมียจนเกิดมีปากเสียงรุนแรงเลยยิงใส่ ก่อนหลบหนีไปตั้งหลัก
วันนี้ (5 พ.ค.) เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ กก.สส.น.1 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยขาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.น.1 แถลงผลจับกุม นายสุรพันธ์ กฤตสัมพันธ์ อายุ 37 ปี วิศวกรเครื่องกลโรงงานเครื่องแก้วราษฎร์บูรณะ ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 409 หมู่ 9 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ ตามหมายจับหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1233/52 ลงวันที่ 5 พ.ค.52 รวม 5 ข้อหาฉกรรจ์ คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะหลบหนีกบดานในห้อง 331 ชั้น 3 อาคารบางแสนคอนโดเทล ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 ปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 4 ปลอกและกระสุนปืน 4 นัด
หลังจากผู้ต้องหาตามง้อขอคืนดี นางยุพดี ลาภานันท์ ภรรยา บริเวณแผงขายเสื้อผ้าถนนข้าวสาร แต่ถูกปฏิเสธตัดเยื่อใยจึงเกิดบันดาลโทสะชักปืนยิงใส่นางยุพดี และนายพลกฤษณ์ กฤตสัมพันธ์ อายุ 19 ปีลูกชาย และนายอาคม สุโรจน์วงศ์ อายุ 33 ปี น้องเขยนางยพดีจนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมี น.ส.คาร์ริน มาทิดา วีวา อายุ 21 ปี นักท่องเที่ยวชาวสวีเดนถูกกระสุนลูกหลงจนได้รับบาดเจ็บไปอีก 1 ราย
ภายหลังถูกจับกุมตามหมายจับนายสุรพันธ์ยอมจำนนต่อความผิดแต่โดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1 โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมสอบปากคำ โดยนายสุรพันธ์มีสีหน้าที่เคร่งเครียด ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังออกติดตามตัวผู้ต้องหาตามแหล่งที่คาดว่าจะไปกบดาน กระทั่งได้รับแจ้งเบาะแสจึงเดินทางไปตรวจสอบและพบตัวผู้ต้องหาดังกล่าว ซึ่งการดำเนินคดีนั้นไม่หนักใจเพราะเป็นคดีที่ไม่มีอะไรซับซ้อนไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือมือปืนอาชีพมีเพียงผู้กระทำการเพียงคนเดียวซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพแต่โดยดี เพราะไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือมือปืนอาชีพแต่อย่างใด
ด้าน นายสุรพันธ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ โกรธแค้นภรรยาที่ไม่ยอมคืนดีด้วยทั้งๆ ที่ตามง้อมานานหลายเดือน เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นคนขี้โมโห อารมณ์ร้อน และมักมีปากเสียงกับภรรยาเสมอ แต่ไม่เคยใช้กำลังทำร้ายภรรยา และเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตนจับได้ว่าภรรยาแอบติดต่อกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง มีการส่งอีเมลพูดคุยกันตลอดเวลา โดยปืนที่พกมานั้นตั้งใจจะเอามายิงฝรั่งที่แอบมากิ๊กกับภรรยาตน ก่อนเกิดเหตุตนพยามยามจะตามง้องอนอีกแต่เกิดถกเถียงกันขึ้น ระหว่างที่ตนกำลังทะเลาะกับภรรยาอยู่นั้น ภรรยาได้ต่อว่าด่าทอจนทนไม่ไหวจึงชักปืนออกมายิงใส่ ระหว่างนั้นน้องเขยพยายามเข้ามาแย่งปืน และตนเข้าใจว่าจะเข้ามาทำร้ายจึงบันดาลโทสะยิงอีกคน
“ส่วนเหตุที่ยิงลูกชายด้วยเพราะโกรธที่ลูกชายเข้ามาชกต่อยหน้าและด่าที่ยิงแม่เขาตาย และเห็นว่าการที่ลูกมาต่อยและด่าพ่อซึ่งเป็นบุพการีนั้นมันไม่ถูกต้อง จึงใช้ปืนยิงลูกด้วยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และขอยอมชดใช้กรรมทั้งหมดแต่โดยดี หลังจากก่อเหตุแล้วก็กลับไปที่โรงงานสงบสติอารมณ์สักพักจึงเรียกแท็กซี่ให้มาส่งที่บางแสน ซึ่งเป็นบ้านญาติ เพื่อคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นและตั้งใจจะมอบตัวอยู่แล้วแต่มาถูกตำรวจจับได้เสียก่อน” นายสุรพันธ์สารภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุระหองระแหงของครอบครัวนี้เกิดขึ้นมา 2 ปีแล้ว กระทั่งล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นางยุพดีได้มาขอลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ชนะสงคราม ว่าจะขอหย่าขาดจากกันและไม่ให้นายสุรพันธ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเองอีก เนื่องจากมีบ้านพักอยู่ใกล้กัน แต่นายสุรพันธ์ยังตามมางอนง้อที่โรงพักจนนางยุพดีใจอ่อน ก่อนที่จะเดินทางกลับออกไปพร้อมกัน
โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้แยกกันอยู่มาเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากฝ่ายหญิงทนพฤติกรรมของฝ่ายชายที่ชอบใช้ความรุนแรงไม่ไหว อีกทั้งงานการไม่ค่อยทำก็เลยขอหย่า แต่ฝ่ายชายก็ยังพยายามตามง้ออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวันเกิดเหตุมีพยานเห็นว่านายสุรพันธ์ได้มาตามง้อนางยุพดีอีกครั้ง แต่นางยุพดีกำลังติดขายของให้ลูกค้าอยู่ ทำให้นายพลกฤษณ์ผู้เป็นลูกเข้าไปห้ามปราม แล้วเผลอไปผลักอกนายสุรพันธ์ผู้เป็นพ่อเข้า เลยทำให้นายสุรพันธ์เกิดบันดาลโทสะชักปืนออกมาจ่อยิงใส่ทีละคนจนเสียชีวิตดังกล่าว
ออกหมายจับผัวโหดยิงเมีย-ลูกดับ 3 ศพ กลางถนนข้าวสาร
ผัวโหด!ชักปืนยิงเมีย-ลูกดับ 3 ศพ บนถ.ข้าวสาร นักท่องเที่ยวสาหัส 1