สืบบางเสาธง แกะรอยก่อนรวบตัว “บุญทิ้ง” หลังหนีไปกบดานบ้านเกิดที่เมืองนนท์ เจ้าตัวสารภาพออกมาหาปลา เห็นคนตายเดินคุยโทรศัพท์ ความโลภเลยพุ่งปรี๊ด อยากได้ทรัพย์สินไปให้เมียที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เอาแหเหวี่ยงครอบตัวก่อนรัดคอจนตายชิงไปทั้งเงินและมือถือ แต่เกิดอารมณ์จึงย้อนกลับมาข่มขืนศพซ้ำอีก
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 ร่วมกันแถลงข่าวผลงานตำรวจ สน.บางเสาธง จับกุมตัว นายระนอง หรือ “ทิ้ง” บัวผัน อายุ 37 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ จ.684/2552 ลงวันที่ 3 พ.ค.52 ข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่ป้ายรถประจำทางก่อนข้ามสะพานนวลฉวี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมของกลางแหหาปลา 1 ปาก กระเป๋าสตางค์สุภาพสตรี 1 ใบ บัตรประชาชน บัตรประจำตัวนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร และบัตรวีซ่าธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นของ น.ส.ศรัญญา ชวยกระจ่าง อย่างละ 1 ใบ
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง ได้รับแจ้งพบศพ น.ส.ศรัญญา หรือ “กล้วย” ชวยกระจ่าง อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาสารสนเทศคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลพณิชย์การพระนคร ถูกฆ่ารัดคอหมกศพอยู่ในพงหญ้าติดทางเดินข้างห้องน้ำคนงาน ในบ้านไม่มีเลข ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภายในซอยราชพฤกษ์ 11 (ซอยธนาคาร) แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน กทม.ในสภาพสวมชุดนักศึกษา นุ่งกระโปรงพีทสั้น ไม่สวมกางเกงชั้นใน โดยแพทย์คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน
ก่อนหน้านี้ บิดาผู้ตาย ให้การกับตำรวจว่า ได้พูดคุยกับลูกสาวทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวลูกสาวเพิ่งกลับจากเดินทางไปฝึกงานในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ ที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านถนนตลิ่งชัน และบอกว่า กำลังเดินเข้าบ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพไม่ถึง 50 เมตร จากนั้นก็มีเสียงคล้ายลูกสาวทะเลาะกับผู้ชาย ก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์จะขาดหายไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย จนตัดสินใจไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางเสาธง ก่อนจะมีผู้มาพบศพ
หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวคนงาน 2 คน ซึ่งกำลังก่อสร้างบ้านหลังที่เกิดเหตุไปสอบปากคำ ทราบว่า มีคนงานก่อสร้าง ชื่อ นายระนอง หรือ “ไอ้บุญทิ้ง” บัวผัน อายุ 37 ปี ซึ่งพักอยู่กับภรรยาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ใกล้เคียงกับจุดที่พบศพได้หายตัวไป เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการแกะรอยจากสัญญาณโทรศัพท์ จนสามารถติดตามไปจับกุมตัวนายระนอง ไว้ได้ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดที่ จ.นนทบุรี
จากการสอบสวน นายระนอง ให้การรับสารภาพว่า เห็น น.ส.ศรัญญา เดินเท้าเข้าออกบริเวณหน้าบ้านที่ตนไปรับงานก่อสร้างเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อเวลา 21.40 วันที่ 27 เม.ย.2552 ตนได้เดินออกจากพิงพักคนงานเพื่อนำแหไปทอดหาปลาที่บริเวณร่องน้ำ จากนั้นก็เห็น น.ส.ศรัญญา เดินคุยโทรศัพท์มือถือผ่านมาเพียงลำพัง เลยเกิดความโลภอยากชิงทรัพย์เอาโทรศัพท์และเงินไปซื้อยาให้ภรรยาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ จึงตัดสินใจเอาแหครอบร่าง น.ส.ศรัญญา จากทางด้านหลัง แล้วลากตัวฝ่าพงหญ้าเข้าไปในบ้านซึ่งกำลังก่อสร้าง ก่อนใช้เชือกมะลิลารัดคอจนเสียชีวิต เมื่อแน่ใจว่าเหยื่อตายแน่แล้ว ตนจึงลักกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสด จำนวน 720 บาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ อีก 1 เครื่อง หลบหนีไปที่เพิงพักเพื่อเตรียมตัวหลบหนี
“แต่ในระหว่างที่ตนกลับไปเอาเสื้อผ้าโดยทิ้งภรรยาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไว้ในเพิงพักเพียงคนเดียวนั้น ตนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงได้ย้อนกลับไปในบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อทำอนาจารกับศพจนสำเร็จความใคร่ แล้วลากศพไปหมกในพงหญ้าติดทางเดินข้างห้องน้ำคนงาน ก่อนหลบหนีนำเครื่องโทรศัพท์ไปขาย ส่วนซิมการ์ดตนได้ถอดเก็บเอาไว้ สำหรับทรัพย์สินอื่น เช่น กระเป๋าเงิน และบัตรของผู้ตาย ตนเอาไปโยนทิ้งไว้ในป่าหญ้าข้างร้านขายวัสดุก่อสร้างริมถนนราชพฤกษ์ แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน กทม.ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามกลับมาได้จนครบแล้ว” นายระนอง กล่าว
หลังจบการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายระนอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาอาจถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ จากนั้นจึงส่งตัวให้ ร.ต.ท.วิทยา เซ็นบัว ร้อยเวรเจ้าของคดีนำไปสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป