ผบช.น.เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็ว (จู่โจม) ของ บก.น.7-9 เพื่อเตรียมความพร้อมและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย
วานนี้ (26 เม.ย.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ได้เดินทางไปเป็นประธานการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็ว (จู่โจม) ของ บก.น.7, บก.น.8 และ บก.น.9 ที่ศูนย์กีฬาราชดำเนิน ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงและเขตทวีวัฒนา โดยมีคณะครูฝึกจาก บก.ตปพ. และ รร.นรต.รวมถึงข้าราชการตำรวจที่ถูกคัดเลือกให้เข้ามารับการฝึกจำนวนทั้งสิ้น 114 นาย ให้การต้อนรับกันอย่างพร้อมเพียง
สำหรับการฝึกดังกล่าวเป็นโครงการนำร่องที่ ผบช.น.ได้มีคำสั่งให้ บก.น.7, บก.น.8 และ บก.น.9 ทำการคัดเลือกข้าราชการตำรวจที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งความรู้ความสามารถ สติปัญญา สภาพร่างกายตลอดจนสภาพจิตใจ เข้ามารับการฝึกอบรมยุทธวิธีของชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็ว (จู่โจม) โดยให้แต่ละ บก.คัดสรรตำรวจชั้นประทวน 33 นาย และชั้นสัญญาบัตร อีก 5 นายรวมทั้งสิ้น บก.ละ 38 นาย มาเข้ารับการฝึกตามกรอบระยะเวลาอบรม 1 วัน คือตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ด้านต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่จะสามารถนำมาใช้ให้คล่องตัวตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนวิชาที่จะมีการนำมาฝึกทบทวนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ถูกคัดเลือกมาทั้ง 114 นายนั้น ได้แบ่งช่วงเวลาการอบรมออกเป็น 2 ภาค ได้แก่ ภาคเช้า จะเป็นพิธีการเปิดโครงการ รับนโยบายจากทางผู้บังคับบัญชา จากนั้นก็จะมีครูฝึกจาก บก.ตปพ.เข้ามาฝึกทบทวนวิชาทหาร การฝึกท่าบุคคลมือเปล่า ยุทธวิธีการเข้าตรวจค้นผู้ต้องสงสัย ยุทธวิธีการเข้าจับกุมผู้ต้องหาหลักการใช้เครื่องพันธนาการ (กุญแจมือ) ก่อนจะมีการพักให้ดื่มกาแฟและอาหารว่าง สำหรับในภาคบ่าย จะมีวิทยากรจาก รร.นรต.มาฝึกสอนเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนประจำกาย มีทั้งการทบทวนเรื่องกฎความปลอดภัย การดูแลรักษาอาวุธปืน ตลอดจนฝึกการตรวจอาวุธและท่ายิงปืนตามยุทธวิธีของตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ รอง ผกก.ปป.สน.บางมด ซึ่งเป็นผู้ควบคุมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.8 เข้ามารับการฝึกในครั้งนี้ เปิดเผยว่า การฝึกอบรมชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็ว (จู่โจม) นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนความรู้ด้านต่างๆ ให้กับกำลังพลที่ต้องออกไปทำงานในหลายรูปแบบ ซึ่งชุดจู่โจมถือเป็นหน่วยย่อยที่สามารถเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับมอบหมายได้อย่างรวดเร็ว จึงสมควรที่จะต้องมีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีตำรวจกันเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความพร้อมและเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่