“สุพร” ยันกระสุนยิง “สนธิ” ไม่ได้ใช้ในราชการตำรวจ

รอง ผบช.น.ยันกระสุนที่คนร้ายยิงมุ่งหวังเอาชีวิต “สนธิ” ไม่ใช่กระสุนที่ใช้ในหน่วยงานตำรวจ ชี้ตำรวจวางกำลังอารักขาศาลรัฐธรรมนูญเข้มครอบคลุมพื้นที่ กทม.เป็นเครือข่ายใยแมงมุม ลั่นห้ามเสื้อแดงรวมตัวชุมนุม อยู่ระหว่างประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขู่ฝ่าฝืนจับทันที

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษกนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งดูวิถีกระสุน และจุดที่คาดว่าคนร้ายยิงอาวุธปืนใส่รถของนายสนธิ พร้อมตรวจสอบทิศทางการหลบหนีของคนร้าย โดยนำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาชี้จุดที่เกิดเหตุ และตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสอดคล้องกับคำที่เคยให้การไว้หรือไม่ ซึ่งในชั้นนี้คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนักเป็นเรื่องของสำนวนคดี ส่วนสาเหตุการลอบยิงนั้นยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มไหน แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาหวังเอาชีวิตอย่างแน่นอน และจากการตรวจสอบกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุตัดไปได้เลยว่าไม่ใช่เป็นกระสุนที่ใช้ในหน่วยงานตำรวจอย่างแน่นอน

พล.ต.ต.สุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญออกมาตำหนิมาตรการรักษาความปลอดภัยของตำรวจนครบาลต่อศาลว่าหละหลวมไม่รอบคอบว่า ที่ผ่านมาขอยืนยันมีการดำเนินการมาโดยตลอด มีการตั้งด่านรอบพื้นที่สถานที่ราชการสำคัญและมีการตั้งจุดตรวจร่วม 50 จุด ซึ่งเป็นจุดที่กำหนดร่วมกันในหน่วยงานความมั่นคง โดยตำรวจปฏิบัติตามแผน ทั้งตรวจเข้มรอบนอก และบริเวณรอบใน พร้อมยังมีด่านตรวจแอลกอฮอล์ และจุดสกัดรถต้องสงสัยสามารถครอบคลุมพื้นที่ กทม.ทั้งหมดโยงใยเป็นเครือข่ายใยแมงมุม

“ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ระบุจะเดินทางมากดดันการประชุมรัฐสภาวันที่ 22 เม.ย.นั้น อยู่ระหว่างการหาข่าวของเจ้าหน้าที่ และคงไม่อนุญาตให้มีการชุมนุม เนื่องจากยังอยู่ระหว่างประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด หากพบว่ามีการชุมนุมมากกว่า 5 คนขึ้นไปก็จะดำเนินการจับกุมตามกฎหมายในทันที” พล.ต.ต.สุพร กล่าว