เปิดฉากสลายม็อบปิดแยกสามเหลี่ยมดินแดง "แดงถ่อย" กระเจิง

ทหารนำกำลังติดโล่ พร้อมแก๊สน้ำตาระดมยิงใส่เสื้อแดงที่ปิดแยกสามเหลี่ยมดินแดง และปะทะอย่างดุเดือดจนเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็สามารถสลายกันชุมนุมได้ในที่สุดโดยผู้ชุมนุมแตกกระเจิงหนีไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ แกนนำปลุกม็อบที่ทำเนียบรับมือ "ณัฐวุฒิ"ปลุกระดมอ้างอาจมีคนตาย



วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เจ้าหน้าที่ทหารได้นำแก๊สน้ำตาพร้อมโล่หลายร้อยนาย เข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงประมาณหลายร้อย คน ที่รวมตัวนำรถแท็กซี่และรถเมล์มาจอดปิดขวางการจราจร ตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มเสื้อแดงเป็นระยะ ทำให้กลุ่มเสื้อแดงต้องถอยร่นออกมาทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยบางส่วนพยายามเข้าปะทะเจ้าหน้าที่โดยใช้รถเมล์ รถแท็กซี่ขับเข้าชน และเผายางล้อรถยนต์เพื่อเป็นแนวกั้น โดยสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดโดยมีการปะทะกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายจำนวน 20 คน ซึ่งมีรถพยาบาลเข้าออกในพื้นที่เพื่อรับผู้บาดเจ็บตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเกือบทั้งหมดได้แตกกระเจิงถอยร่นหนีออกมาทางอนุสาวรีย์ชัยแล้ว โดยทันทีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงทราบข่าว ก็ได้ประกาศและปลุกให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่ยังรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าทำเนียบตื่นขึ้นเพื่อเตรียมรับสถานการณ์การสลายการชุมนุม

ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี รายงานเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ชัดเจนว่าได้รับบาดเจ็บเพราะอะไร เนื่องจากทหารเพียงแต่ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายคนเสื้อแดงได้ยิงปืนเข้าใส่ทหารเช่นกัน โดยซุ่มยิงมาจากอีกฝั่งหนึ่ง

ส่วนทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เนื่องจากคนเสื้อแดงขับรถแท็กซี่พุ่งเข้าชนอย่างแรงจนล้มคะมำ และได้รับบาดเจ็บ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมหลังจากโดนแก๊สน้ำตาแตกกระเจิงไปแล้วได้พยายามรวมตัวกันใหม่ แต่ก็ถูกทหารกดดันอย่างต่อเนื่อง

จนเวลาประมาณ 05.30 น. สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมยอมถอยเข้าไปอยู่ทางแฟลตดินแดง และทหารได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านไปเที่ยวสงกรานต์ ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนได้ขว้างปาขวดน้ำเข้าใส่ทหารเป็นระยะๆ แต่ทหารก็ไม่ได้ตอบโต้ เนื่องจากท่าทีของผู้ชุมนุมอ่อนลงมากแล้ว และทหารสามารถคุมพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไว้ได้แล้ว

เมื่อเวลาประมาณ 06.00น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นการสนธิกำลังระหว่างตำรวจและทหารได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยระบุว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีการโยนระเบิดเพลิง อาวุธปืนและแก๊สน้ำตาเข้าหาเจ้าหน้าที่ ทั้งยังมีการขับรถประจำทางที่ยึดมาขับพุ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อใช้เสียงข่มขู่และใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม

"กลุ่มผู้ชุมนุมมีการยิงอาวุธปืนมาจากทางด่วน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บมาจากการที่ถูกรถเมล์พุ่งเข้าชน" พ.อ.สรรเสริญระบุ

อนึ่ง ในช่วงเช้า 06.00น. มีรายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่าบริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ถนนโดยรอบ ลานพระบรมรูปทรงม้า รวมถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงชุมนุมอยู่แล้ว โดยทั้งหมดถูกแกนนำเรียกไปรวมตัวอยู่ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล

ต่อมาในช่วงเวลา 06.50น. สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ได้ต่อสายสัมภาษณ์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. โดยนายณัฐวุฒิได้พยายามปลุกระดมว่าในการสลายการชุมนุมที่แยกดินแดงนั้นทางฝั่ง นปช. อาจมีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตรวจสอบกับโรงพยาบาลที่รับผู้บาดเจ็บเอาไว้รักษา แพทย์ยืนยันว่ามีแต่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอันเนื่องมาจากการใช้แก๊สน้ำตาเท่านั้น

เมื่อพิธีกรถามกลับไปว่าการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนั้นเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้กับการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ เนื่องจากวานนี้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่กระทรวงมหาดไทย โดยมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่และทำร้ายทรัพย์สินให้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก โดยผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นรวมไปถึง นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ และ ทีมรักษาความปลอดภัยด้วย นายณัฐวุฒิได้พยายามตัดบทและอ้างว่าเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดโทสะเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการชักอาวุธปืนขึ้นมาก่อน

ล่าสุดหลังช่วงเวลา 08.00น. มีรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ยึดรถประจำทางจำนวน 2 สาย นำกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนกลับเข้ามาในบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยได้เผายางรถยนต์และขว้างระเบิดเพลิงเข้าหาเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่ทหารได้ตั้งด่านบริเวณทางด่วนดินแดงทำให้ยานพาหนะต่างๆ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้

แรมบ้า ขู่บุก ทบ.ปลุกเสื้อแดงป่วนจังหวัดตัวเอง

สำหรับบรรยากาศที่เวทีหน้าทำเนียบรัฐบาล เวลา 05.50 น. นาย สุพร อัตถาวงศ์ อดีตส.ส.นครราชสีมา บ้านเลขที่ 111 หรือ ฉายา “แรมโบ้” กล่าวบนเวทีคนเสื้อแดงหน้าทำเนียบว่า นายอภิสิทธิ์ ฆ่าประชาชนที่มีแค่สองมือเปล่า และนอกจากลาออกไม่พอต้องขับออกนอกประเทศไปด้วย เพราะนายอภิสิทธิ์และนายสุเพทบังอาจฆ่าคนไทยผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ขอให้สว่างก่อนแล้วคนเสื้อแดงจะออกฤทธิ์บ้างเพราะ

“กองทัพบกไม่ได้มีไว้ฆ่าคน และไม่ยอมปฏิบัติการกับพันธมิตรฯทั้งที่มีการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเช่นกัน แต่ทหารกลับไม่ยอมดำเนินการอะไรเลย ทั้งที่คนเสื้อแดงไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่เคยบุกและไม่เคยทำลายของทางราชการ ดังนั้นซึ่งคนเสื้อแดงถูกบีบจนทนไม่ไหวต่อไปแล้ว วันนี้กองทัพบกได้เจอกันแน่นอน”นายสุพร กล่าว

นายสุพร กล่าวอีกว่า วันนี้ไม่รับประกันอะไรทั้งสิ้น ซึ่งตอนนี้มีประชาชนโทรมาถามว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตนบอกว่าถ้าพี่น้องต่างจังหวัดอะไรตนไม่เกี่ยวทั้งนั้น เพราะท่านมีสิทธิ์ตัดสินใจเองว่าควรทำอย่างไร ตนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ตนไม่เคยเสียดายชีวิต แต่ก่อนตายขอทำเพื่อคนเสื้อแดงสักเรื่องหนึ่ง ซึ่งนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ต้องเจอกับตนแน่นอน

แม้วโฟนอินให้กำลังใจ "ตู่" ปล่อยข่าวเสื้อแดงตาย4

06.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนได้คุยโทรศัพท์กับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ท่านฝากความห่วงใยไม่ได้หลับนอนเช่นกัน และเป็นกำลังใจให้ด้วย นอกจากนี้นายจตุพร กล่าวว่าขณะนี้มีคนเสื้อแดงเสียชีวิตที่ดินแดงแล้ว 4 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากนี้ในเว็บไซต์หนึ่งของคนเสื้อแดงปล่อยข่าวว่า คนเสื้อแดงเสียชีวิตแล้ว 4 ศพ และถูกลากขึ้นรถหมด โดยคนเสื้อแดงแย่งได้แค่กางเกง ของศพเท่านั้น พร้อมกับประกาศให้คนเสื้อแดงในต่างประเทศไปพบกันที่สถานฑูตและบอกว่ารัฐบาลไทย ฆ่าประชาชน

จากนั้นเวทีได้เปิดให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาเล่านาทีที่ถูกทหารยิงว่า โดยผู้ชุมนุมผู้หญิงคนหนึ่งเล่าว่า ตอนแรกทหารยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วก็หันกระบอกปืนมายังประชาชนละได้ยิงปืนใส่ ขนาดเด็กๆอายุ 12-13 ปี ยังยิงได้ เพราะตนกับลูกก็ถูกยิงเช่นกัน นอกจากนั้นผู้ชุมนุมผู้ชายคนหนึ่งเล่าว่า ตำรวจอยู่หลังประชาชน แต่ยังจะบอกว่าเป็นคนของประชาชน ซึ่งตนกับแม่ให้ตำรวจช่วยก็ไม่ยอมช่วย และตำรวจบอกว่าให้เลี่ยงออกไปเท่านั้น

“พายัพ”ทำเป็นแค้น บอกอภิสิทธิ์ต้องใช้หนี้เลือด

06.15 น. นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า คนสั่งการเรื่องนี้ไม่มีใครนอกจากนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นาย สุเทพ เทอกสุบรรณ รองนายกฯ นาย เนวิน ชิดชอบ และผู้บัญชาการทหารบก ถามว่าท่านอยากอยู่ในอำนาจนี้มากที่สุดโดยไม่คำนึงถึงชีวิตประชาชนใช่หรือไม่ และไม่สนใจที่ต้องล้มเพราะกระสุนปืนที่เป็นภาษีของประชาชนใช่หรือไม่

“เหตุการณ์เกินเลยมากกว่าจะยุบสภาและลาออกแล้ว เพราะไม่สามารถทดแทนชีวิตพี่น้องทุกคนต่อไปแล้ว ชีวิตของคนไทยที่มีอุดมการณ์รักประชาธิปไตยเพราะพวกคุณที่ต้องการอำนาจวาสนาโดยการเข่นฆ่าประชาชน ไม่มีประเทศไหนเขาทำร้ายประชาชนที่รักประชาชนด้วยอาวุธให้ตายเป็นเบือขนาดนี้หรอก โทษของนายอภิสิทธิ์ต้องมาใช้หนี้เลือดให้กับประชาชน”นายพายัพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายพายัพได้บอกกับผู้ชุมนุมว่าขอแรงให้ไปที่คิงพาวเวอร์ ซอยรางน้ำด่วนเพราะมีการบัญชาการกันอยู่ที่นั่น

มานิต โน้มน้าวทหารมาเป็นพวก

06.30 น. นาย มานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตแกนนำนปก. กล่าวบนเวทีหน้าทำเนียบโดยนายมานิตย์บอกกับทหารว่า ลูกๆทหารออกมาเถอะ เงินเดือนไม่กี่พันบาทเท่านั้นก็ยังจะมาฆ่าประชาชนอีก ปืนก็ยังเงินของประชาชนซื้อมา และยังรักษาชีวิตให้ทรราชอยู่ได้